“อาคม”ยันรถไฟไทย-จีนปรับแผนแบ่งเฟส ชะลอสร้างช่วงแก่งคอยมาบตาพุด ลดต้นทุนลงถึง 1.6 แสนล้านบาท จากเดิมกว่า 5 แสนล้านบาท เผยอนาคตเมื่อมีปริมาณสินค้าค่อยก่อสร้าง ขณะที่หารือญี่ปุ่น หาความชัดเจนใช้ทางร่วมกับแอร์พอร์ตลิงก์ ช่วงดอนเมือง-บางซื่อ แก้ปัญหาเขตทางไม่พอ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า โครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน ในการพัฒนารถไฟขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร (Standard Gauge) เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทาง 845.27 กิโลเมตร และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 118.14 กิโลเมตร จะมีการก่อสร้างเต็มโครงการ โดยจะแบ่งการก่อสร้างออกเป็นเฟส เพื่อลดต้นทุนโครงการในช่วงแรก ซึ่งระยะแรกจะก่อสร้างตั้งแต่กรุงเทพฯนครราชสีมา-หนองคาย โดยช่วง กรุงเทพฯ- แก่งคอย, แก่งคอย-นครราชสีมา จะเป็นระบบทางคู่ ส่วนช่วงนครราชสีมา-หนองคาย จะก่อสร้างเป็นทางเดี่ยวก่อน ขณะที่ช่วง แก่งคอย-มาบตาพุด ตามแผนเดิมจะชะลอการก่อสร้างเป็นระยะต่อไป เมื่อมีความต้องการของปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะต้องมีการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม
โดยการปรับแผนใหม่ดังกล่าว ทำให้ต้นทุนโครงการจากประมาณการเดิม 5 แสนกว่าล้านบาท ลดลงไป 1.6 แสนล้านบาท ขณะที่การเชื่อมต่อ ด้านผู้โดยสารจากจีน-ลาวเข้าหนองคาย-โคราชกรุงเทพฯ ยังมีความสะดวกเชื่อมต่อไร้รอยต่อ ไม่มี ปัญหาใดๆ เพราะแนวเส้นทางในลาว เป็นทางเดี่ยว ที่เน้นขนส่งผู้โดยสาร โดยทางจีนจะทำรายละเอียดเพิ่มเติมในการปรับเปลี่ยนดังกล่าว และจะสรุปร่วมกันในการประชุมครั้งที่ 10 ปลายเดือน ก.พ.นี้
นายอาคมกล่าวว่า วานนี้ (4 ก.พ.) หารือกับ ผู้แทนกระทรวงที่ดินโครงสร้างพื้นฐานการ ขนส่ง และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น ในการพัฒนาเส้นทางรถไฟแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกตอนใต้ (Lower East-West Corridor) เส้นทาง กาญจนบุรี (บ้านพุน้ำร้อน)-กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง และกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ ระยะทาง 574 กม. ตามบันทึกความร่วมมือ (MOC) การพัฒนาโครง สร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งซึ่งบริษัทที่ปรึกษาของญี่ปุ่นได้เริ่มสำรวจแนวเส้นทาง เพื่อสรุปแผน การปรับปรุงรางรถไฟขนาด 1 เมตรเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน และจะปรับเป็นทางคู่ในอนาคตต่อไป ซึ่งจะมีการทดลองเดินรถสินค้าตัวอย่างด้วยตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 12 ฟุต ที่สถานีหนองปลาดุก ในวันที่ 5 ก.พ.นี้ จากนั้นจะมีการทดลองเดินรถสินค้าที่สายเหนือและสายอีสานด้วย และประเมินผล
ส่วนรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯเชียงใหม่ อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสม โดยได้หารือถึงแนวเส้นทางที่ทับซ้อนกับความร่วมมือรถไฟไทย-จีน ตั้งแต่ช่วงบางภาชี-บางซื่อที่มีเขตทางจำกัด ซึ่งชัดเจนแล้วว่า รถไฟไทย-ญี่ปุ่นจะแยกรางไม่ใช้ร่วมกับใครเพราะมีเทคโนโลยีแตกต่างกัน โดย ร.ฟ.ท.และ สนข.จะพิจารณาจัดสรรการใช้พื้นที่ในแต่ละโครงการโดยบางช่วงจะต้องมีการจัดหาพื้นที่เพิ่มเติม ขณะที่ช่วงรังสิตดอนเมือง-บางซื่อ ซึ่งพื้นที่จำกัดมากที่สุดนั้น ได้หารือถึงทางเลือกต่างๆ เช่น ให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ใช้ทางร่วมกับระบบรถไฟไทย-ญี่ปุ่นหรือ รถไฟไทย-จีน, ใช้ชานชลาสถานี (platform) ร่วมโดย ชานชลาจะอยู่ตรง ระหว่างทางรถไฟ ซึ่งฝั่งหนึ่งจะเป็นทางวิ่งรถไฟไทย-ญี่ปุ่น อีกฝั่งเป็นทางวิ่งของแอร์พอร์ตลิงก์ เป็นต้น
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา