“ดีแลนด์” เล็งเปิด 2 โครงการ มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท หวังโกยยอดขายสิ้นปี 1,200 ล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่1,300 ล้านบาท พร้อมทำคลังสินค้าโซนตะวันออก
นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัดเปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทวางแผนที่จะเปิดโครงการใหม่อยู่ที่2โครงการ ด้วยมูลค่ารวมกว่า1,550ล้านบาทประกอบด้วยโครงการThe Proudพระราม2-พันท้ายฯซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว2ชั้น บนพื้นที่โครงการรวมประมาณ31ไร่ จำนวน110ยูนิต มูลค่า โครงการรวม550ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวภายในไตรมาสแรกของปีนี้อีกโครงการ คือโครงการD Townศรีราชา โครงการประเภทMix Useตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพติดสวนเสือศรีราชาบนเนื้อที่โครงการรวม24ไร่ ประกอบด้วยPorto Market, D Complex, D Parkคอนโดมิเนียม 8 ชั้น 2 อาคาร ราคาประมาณขายต่อยูนิตประมาณ 1 ล้านบาท และการให้บริการในรูปแบบService Apartmentที่บริหารจัดการแบบครบวงจร มีมูลค่าโครงการรวม1,000ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสแรกของปีเช่นกัน
นอกจากแผนการเปิดตัวโครงการใหม่แล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะสร้างคลังสินค้าเพื่อขายและเพื่อเช่าในโซนภาคตะวันออกหรือ จ.ชลบุรีอีกด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้เข้าบริษัทต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งการลงทุนทำคลังสินค้า มี 2 แนวทางคือเช่าที่ดินแล้วค่อยก่อสร้าง เพราะสามารถทำได้เร็วและลงทุนน้อย หรือซื้อที่ดินเองเป็นต้น โดยเนื้อที่ที่จะทำคลังสินค้านั้นจะต้องมีประมาณ 20 ไร่บวกลบ อย่างไรก็ตามหากได้เนื้อที่เร็วคาดว่าจะเริ่มทำได้ประมาณไตรมาส 3 ปีนี้
กรรมการผู้จัดการ ดี-แลนด์ กรุ๊ปกล่าวอีกว่า เป้าหมายของดี-แลนด์ กรุ๊ปในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 1,200 ล้านบาทยอดรับรู้รายได้วางเป้าไว้ที่1,300ล้านบาทซึ่งยอดขายที่รอรับรู้รายได้หรือ Backlog ปีนี้ประมาณ 250 ล้านบาท และจำนวนยูนิตเหลือขายอีกกว่า886ล้านบาท จาก5 โครงการ ได้แก่ เดอะพราว พระราม2,บ้านดี เศรษฐกิจ,บ้านดี เอกชัยพลัส,บ้านดีบางโทรัด,ดีคอมเพล็กซ์ ศรีราชา-นิคมปิ่นทอง1และที่เหลือจะมาจากโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวอีก2โครงการดังกล่าวส่วนในปี2558 ที่ผ่านมาแม้ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศจะไม่ค่อยดีแต่บริษัทยังสามารถทำยอดรับรู้รายได้ทะลุเป้า1,200ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี2557 ถึงร้อยละ52
“ปี2559 บริษัทได้ปรับสัดส่วนสินค้าใหม่ แบ่งเป็นกลุ่มResidential ร้อยละ 45ซึ่งประกอบด้วยโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งจะเป็นProduct for Investment ร้อยละ 45ซึ่งส่วนนี้จะมุ่งไปในโซนของศรีราชาและยังมีProductที่เป็นรายได้ประจำหรือRecurring Incomeอีกร้อยละ10 เพื่อเป็นการกระจายการลงทุน บริหารความเสี่ยง และทำให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าที่วางไว้ ส่วนแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2560 ได้ชะลอออกไปก่อน” นายศิริพงษ์กล่าว