นายสมพร ปัจฉิมเพชร นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขณะนี้มีความพร้อมทุกด้านในการรองรับการเจริญเติบโตของการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน ตามนโยบายด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจุดผ่อนที่มีพื้นที่ชายแดนติดกับบ้านมูด่อง ประเทศเมียนมา ปัจจุบันมีการเปิดตลาดนัดชุมชนคนสองแผ่นดิน ณ บริเวณชายแดนด่านสิงขร เพื่อให้ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ เข้ามาทำมาค้าขายร่วมกัน ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่มีทั้งของใช้จำเป็นจากฝั่งไทย และสินค้าพื้นเมืองส่งมาจากฝั่งเมียนมา เช่น ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ เครื่องตกแต่งบ้าน พันธุ์ไม้ เครื่องสำอางสมุนไพร ที่ทำจากทานาคา รวมถึงเครื่องประดับที่ทำจากหยก พลอย และหินสี ที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมเลือกซื้อสินสินค้าเพราะมีความเชื่อว่าเป็นสิ่งนำโชค โดยแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งจากฝั่งเมียนมา เดินทางมาท่องเที่ยวในตลาดชายแดนสิงขร และอำเภอเมืองประจวบฯ อย่างไม่ขาดสาย
ปัจจุบันมูลค่าการค้าด่านสิงขรอยู่ที่เดือนละ 20 ล้านบาท หรือปีละ 200 ล้านบาท แต่หากเป็นด่านถาวร มีการตั้งเป้าว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงเดือนละ 3,000 ล้านบาท หรือปีละ 3 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการย้ายฐานขนส่งสินค้าด้านการประมง ซึ่งขณะนี้ฝั่งเมียนมาได้เปิดเป็นด่านถาวรแล้ว ทำให้คนจากเมียนมาสามารถข้ามเขตเข้ามาฝั่งไทยได้สะดวกขึ้น และจากการสำรวจพบว่าชาวเมียนมาจำนวนมากให้ความสนใจที่จะมาเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หากไทยเปิดเส้นทางนี้เป็นด่านถาวรเมื่อไหร่ ก็เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้าไปเมืองมะริด และจากเมียนมาก็จะเข้ามาเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มากขึ้น ขณะนี้ทางการไทยได้ขยายเวลาให้ชาวเมียนมาเข้ามาได้ ถึงอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ พักค้างคืนได้ 3 คืน 4 วันและกลับออกทางช่องทางเดิมตามเวลาที่ด่านเปิด 08.30 น.และปิด 18.30 น. ส่วนการขนถ่ายสินค้าฝ่ายพม่าให้รถเข้าไปได้ถึงศูนย์ราชการของบ้านมูด่อง