กรณีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ อ.เชียงของ ได้ออกมาแสดงท่าทีที่ไม่เห็นด้วยกับการนำพื้นที่บ้านบุญเรือง หมู่ 2 ต.บุญเรือง อ.เชียงของ ไปเป็นสถานที่จัดตั้งเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ
ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของจังหวัดและคณะกรรมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) นั้น
นายสงวน ซ้อนกลิ่นสกุล รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และนักธุรกิจ อ.เชียงของ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับภาคประชาชนในพื้นที่ ต.บุญเรือง ก็เห็นได้ชัดเจนว่าชาวบ้านไม่ได้ต่อต้านเรื่องการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษโดยตรง แต่เป็นลักษณะของความไม่ต้องการให้มีนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพราะเกรงว่าภาคอุตสาหกรรมจะส่งผลกระทบต่อป่าชุมชนของตำบล ดังนั้น แนวทางในการประชุมหารือเพื่อหาข้อยุติยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะการพัฒนาบางพื้นที่ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในด้านภาคโลจิสติกส์หรืออื่นๆ ที่เห็นว่าเหมาะสม นอกจากนี้ จากการไปพบปะพูดคุยกับชาวบ้านในบางพื้นที่ที่ได้รับการคัดสรรพื้นที่เพื่อการจัดตั้งด้วยก็พบว่าไม่ได้มีการต่อต้านแต่อย่างใด โดยบางแห่งต้องการให้มีการเข้าไปพัฒนาพื้นที่ได้กรณีที่ทาง กนพ.ไม่ได้เลือกเอาพื้นที่ ต.บุญเรือง ดังกล่าว
นายสงวนกล่าวอีกว่า กรณีมีภาคเอกชนสนใจจะเข้าไปลงทุนด้านจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์นั้น เห็นว่ายังคงมีโอกาสโดยสามารถเลือกใช้สถานที่อื่นที่อาจได้รับการคัดเลือกในอนาคต เช่น พื้นที่ ต.สถาน ประมาณ 500 ไร่ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอความคืบหน้าในการดำเนินการของฝ่ายต่างๆ กันต่อไป สำหรับพื้นที่ อ.เชียงของ แล้วไม่ว่าจะจัดตั้งเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหรือไม่ก็ยังคงมีกลุ่มทุนต่างๆ เข้าไปลงทุนอย่างขนานใหญ่หลายราย เช่น บริษัทเจ๋ฟง โลจิสติกส์ จำกัด ที่กำลังเริ่มจะเข้าไปลงทุนในพื้นที่เพื่อเป็นศูนย์โลจิสติกส์คาดว่าจะเห็นเป็นรูปธรรมในปี 2559 นี้ และยังมีกลุ่มทุนย่อยอื่นๆ รวมถึงโครงการของภาครัฐที่เข้าไปรองรับการนำเข้าและส่งออกสินค้า เช่น กรมศุลกากรเพิ่งเปิดด่านศุลกากรเชียงของแห่งใหม่มูลค่า 375 ล้านบาทไปเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นต้น