นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เรื่องอัตราค่าเช่าพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษส่วนใหญ่เรียบร้อยแล้ว แต่มีประเด็นที่เอกชนขอมาคือการลดค่าเซ้งเหลือ 2 แสนบาทต่อไร่ และการเพิ่มค่าเช่า 15% ทุก 5 ปี ขอให้ลดลงอีก
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ข้อเสนอให้ ลดค่าเซ้งตลอดสัญญาเช่า 50 ปี ลงเหลือ 2 แสนบาทต่อไร่นั้นได้เสนอผ่านคณะอนุกรรมการด้านการจัดหาที่ดินและ บริหารจัดการ ครั้งที่ 3 โดยมี พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธาน ส่วนอัตราค่าเช่าเพิ่ม 15% ทุก 5 ปีนั้น ถือเป็นไปตามระเบียบกรม ธนารักษ์
“เดิมกรมธนารักษ์กำหนดค่าเซ้งไว้ 5 แสนบาทต่อไร่ ซึ่งคิดจาก 2% ของราคาที่ดินคูณกับจำนวนปีที่เช่า ส่วนค่าเช่าจะมีการปรับขึ้น 15% ทุก ๆ 5 ปี หรือตกปีละ 3% ตามอัตราเงินเฟ้อ ตามระเบียบของกรมธนารักษ์อยู่แล้ว แต่จะปรับหรือไม่ สุดท้ายก็อยู่ที่ กนพ.” แหล่งข่าวกล่าว
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านสิทธิประโยชน์เขตเศรษฐกิจพิเศษ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า อัตราค่าเช่าที่เสนอไปค่อนข้างเหมาะสมแล้ว แต่ขึ้นกับ กนพ.จะพิจารณา
ล่าสุดพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 561) พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นมาตรการภาษีสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยลดภาษีนิติบุคคลให้กิจการทั่วไปที่ไม่อยู่ในข่ายได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคลจากปกติ 20% เหลือ 10% เป็นเวลา 10 ปี
ทั้งนี้ จะครอบคลุมกิจการการผลิตสินค้าต่าง ๆ อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า, พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก, เคมีภัณฑ์, อัญมณี, เครื่องประดับ, อุตสาหกรรมอาหารทะเล, เกษตรแปรรูป, รองเท้า, สิ่งทอ รวมทั้งธุรกิจบริการ ซึ่งต้องเป็นกิจการที่ให้บริการและใช้บริการในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยกิจการเหล่านี้จะเสียภาษี 10% โดยอัตโนมัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เรียกประชุมด่วน เพื่ออนุมัติอัตราภาษีและสิทธิพิเศษในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยให้ลดภาษีนิติบุคคล 50% ใน 10 ปีแรก และให้สิทธิพิเศษเพิ่มจาก 8 ปี เป็น 10-15 ปี โดยจะนำเสนอให้บอร์ด บีโอไอ เห็นชอบในวันที่ 16 ก.ย. 2558
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2558 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 8/2558 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยกำหนดหลักเกณฑ์การให้การส่งเสริมการลงทุนและเงื่อนไข 1) ต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำแต่ละโครงการไม่น้อยกว่า 500,000 บาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) 2) ต้องมีบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51% 3) ต้องมีอัตราส่วน หนี้สินต่อทุนไม่เกิน 3 ต่อ 1 4) อนุญาตให้นำเครื่องจักรใช้แล้วในประเทศมาใช้ในโครงการที่ขอรับการส่งเสริมได้ มีมูลค่า ไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยจะคำนวณราคาเครื่องจักรใช้แล้วในประเทศ โดยใช้มูลค่าตามบัญชี และต้องลงทุนเครื่องจักรใหม่ในเครื่องจักร
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ