กนอ.พร้อมปรับโครงสร้างลุยนโยบายเขตศก.พิเศษ
กนอ.พร้อมโอนทรัพย์สินกว่า 1 หมื่นล้านบาท
แปลงสภาพเป็นสำนักงานนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ขยายงานดูแลพื้นที่พาณิชย์ ท่องเที่ยว และบริการ ระบุเตรียมประชุมปรับค่าเช่าที่ดิน เขตศก.พิเศษ 5 ต.คนี้ คาดยอดขายที่ดินทั้งปี 2.5 พันไร่ พลาดเป้าหมาย 3 พันไร่
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.กำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้าง โดยกำลังรอร่างพ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ..ที่คาดว่า จะมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบและส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณา เพื่อประกาศบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้คาดว่าขั้นตอนทั้งหมดจะเสร็จและดำเนินการได้ในต้นปี 2559 ซึ่งหลักการของ กฎหมายดังกล่าว จะทำให้ต้องยกเลิกพ.ร.บ. กนอ.ปี 2522 ยุบกนอ. และจัดตั้งเป็นสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (สนพ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
โดยหลังจากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ สนพ.จะมีฐานะเป็นนิติบุคคล พนักงานกนอ.ทั้ง 550 คนและทรัพย์สินของกนอ.ที่มีอยู่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ก็จะต้องโอนไปอยู่ในสนพ. ซึ่งในระยะแรก เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม(สศช.) จะทำหน้าที่เป็นเลขาธิการ สนพ. ชั่วคราวไปก่อน จากนั้นบอร์ด สนพ.จะเป็นผู้คัดเลือกผู้ที่จะมาทำหน้าที่ เลขาธิการ ส่วนตนเองซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่า กนอ.ก็จะหมดวาระตามสัญญาจ้างในเดือน มี.ค.2559
สำหรับบทบาทของกนพ.จะมีมากขึ้น จากเดิม ที่กนอ.จะมีภารกิจเพียงการกำกับดูแลเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมแต่บทบาทใหม่ จะดำเนินการครอบคลุมทั้งในด้านอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การท่องเที่ยวและบริการภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสนับสนุนการลงทุน ที่สามารถ ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้ในทุกๆ ด้าน จากเดิมที่กนอ.ดูแลได้เฉพาะนิคมอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว
ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาราคาที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเขตเศรษฐกิจพิเศษ ชายแดนนั้น ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) คาดว่าจะมีการเสนออัตราค่าเช่าที่ดิน ใหม่ที่น่าจะลดลง ในนิคมฯเขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.แม่สอด จ.ตาก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งมีแนวโน้มจะลดลงปัจจุบันที่ดินเปล่ายังไม่ได้ พัฒนามีราคาเฉลี่ย 3.5 หมื่นบาทต่อไร่ต่อปี หรือที่ดินที่พัฒนาแล้วจะมีราคา1.8 แสนบาทต่อไร่ต่อปี
ส่วนที่อ.สะเดา จ.สงขลา ราคาที่ดินที่พัฒนา แล้วประมาณ 2 แสนบาทต่อไร่ต่อปี ขณะเดียวกันจะมีการขอยกเว้นค่าจัดประโยชน์ที่ดิน(ค่าเซ้ง) 2%ของมูลค่าที่ดิน
“ในส่วนของการพัฒนานิคมฯในรูปแบบคลัสเตอร์ กนอ.จะนำร่องในอุตสาหกรรมที่มี นิคมฯอยู่แล้วเช่นคลัสเตอร์ปิโตรเคมี ,ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ โดยที่นิคมฯมาบตาพุด จ.ระยอง จะพัฒนาไปสู่การเป็นคลัสเตอร์ปิโตรเคมีชั้นสูง เช่น พลาสติกชีวภาพ” นายวีรพงศ์ กล่าว
สำหรับยอดขายนิคมฯที่อยู่ภายใต้การ ดูแลของ กนอ. ทั้งหมด 58 แห่งนั้น ขณะนี้มียอด การขายและให้เช่าพื้นที่ไปแล้วกว่า 2 พันไร่ โดย คาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณ 2558 จะมียอดอยู่ที่ 2.5 พันไร่ ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 3 พันไร่ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและ ต่างประเทศชะลอตัว
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ