นายสมเกียรติ ปินตาธรรม ประธาน บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดก่อสร้างไทยมีทิศทางขยายตัวดีขึ้น
เนื่องจากการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งขนาดใหญ่และโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของภาครัฐ ประกอบกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซีในปลายปีนี้ที่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้แต่ละประเทศในภูมิภาคต้องเร่งดำเนินโครงการก่อสร้างเพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมทั้งการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราการบริโภคเหล็กเคลือบในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวตามไปด้วย แม้จะเกิดสถานการณ์ต่างๆ ภายในประเทศ แต่ยังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดเมืองไทยที่มีแนวโน้มการเติบโตได้ในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันตลาดเหล็กเคลือบภายในประเทศมีมูลค่าประมาณ 28,000 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2558/2559 เรายังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มโรงงานเอสเอ็มอีและที่พักอาศัย อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นตลาดที่ยังมีแนวโน้มการเติบโต โดยชูนโยบายในการขยายตลาดค้าปลีกไปยังตลาดภูมิภาคมากขึ้น เพื่อรองรับการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในต่างจังหวัด โดยจะมีการคัดเลือกและแต่งตั้งลูกค้าของบริษัทฯ ที่เป็นโรงงานรีดขึ้นรูปเมทัลชีทที่มีศักยภาพในแต่ละพื้นที่เข้ามาร่วมโครงการบลูสโคปออโธไรซ์ ดีลเลอร์ หรือตัวแทนจำหน่าย สินค้าบลูสโคปที่มีสินค้าครบครันและบริการครบวงจร ซึ่งปัจจุบันมีบลูสโคปออโธไรซ์ ดีลเลอร์ทั้งหมด 22 สาขา และตั้งเป้าหมายจะขยายให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศภายในปี 2561
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์บลูสโคป แซคส์ฎ คูล (BLUESCOPE Zacsฎ Cool) ซึ่งเป็นนวัตกรรมวัสดุทำหลังคาที่ผลิตจากเหล็กเคลือบคุณภาพสูง พร้อมได้ร่วมกับ บริษัทนิปปอน สตีล แอนด์ ซูมิโตโม เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีและการผลิต ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับทางบลูสโคป ได้ทำการลงทุนในโครงการพัฒนาโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี NSSMC ด้วยเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อทำการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ซูเปอร์ไดม่า
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า