คมนาคม-กทม.ถกอีกรอบส่งมอบเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่คูคต ให้กทม.บริหารทั้งหมด คาดปิดดีลได้ภายในเดือนนี้
ขณะที่กทม.ฟิตจัดเร่งเครื่องเดินรถเพิ่มจากแบริ่งสำโรง ให้ได้ภายในปีหน้า
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวหลังเป็นประธานประชุมการหาแนวทางการถ่ายโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียว 2 ช่วง คือแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิตสะพานใหม่-คูคต ให้ กทม. บริหารการเดินรถแทนว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้วให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รับผิดชอบงานก่อสร้างโยธาจนแล้วเสร็จทั้ง 2 ช่วง โดยจะขอสงวนสิทธิ์เกี่ยวกับแบบและสัญญาตามโครงการก่อสร้างเดิมไว้
ส่วนการเดินรถนั้นมอบให้ กทม. รับผิดชอบ และร่วมประเมินทรัพย์สินการก่อสร้างเพื่อคืนค่าก่อสร้างให้กับ รฟม.ด้วย ซึ่งจากการประเมินต้นทุนโครงการทั้ง 2 ช่วงพบว่ามีวงเงินรวม 60,091,539,467 ล้านบาท โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะต้อง ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเกี่ยวกับกรอบการดำเนินการร่วมกัน
จากนี้จะสรุปเรียบเรียงบันทึกข้อตกลงและเสนอให้ กทม.เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมฝ่ายบริหาร กทม.ให้ความเห็นชอบ และเสนอให้ บอร์ด รฟม.เห็นชอบ ก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) พิจารณาอนุมัติภายในเดือนก.ย.นี้ จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการลงนามร่วมกันได้ต่อไป “เพื่อให้ความร่วมมือเกิดผลในทางปฏิบัติ ที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 ชุด เพื่อเร่งรัดการดำเนินการ คือ 1.คณะกรรมการประเมิน มูลค่าหนี้สิน และทรัพย์สิน รวมทั้งขั้นตอนทางการเงินและการงบประมาณ เพื่อประเมินมูลค่าหนี้สินและทรัพย์สินที่จะมีการจ่ายชำระคืนระหว่าง กทม. รฟม.และกระทรวงการคลัง 2.คณะกรรมการประสานงานด้านเทคนิคและการเดินรถ และสุดท้ายคณะกรรมการติดตามและประเมินผลความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลง”
ด้านนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร (สจส.) กล่าวว่าขณะนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ให้นโยบายมาว่าเร่งรัดผลักดันเปิดให้บริการเดินรถในเส้นทางสายสีเขียวช่วงแบริ่งสมุทรปราการ ให้เร็วที่สุด โดยหลังการลงนามในบันทึกข้อตกลง กทม.ก็จะเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจการเดินรถและหารือร่วมกับบีทีเอส
ตั้งเป้าที่จะเร่งรัดเปิดให้มีการเดินรถได้ก่อนจำนวน 1 สถานี คือ จากสถานีแบริ่งซึ่งเป็นสถานีปัจจุบันของบีทีเอสต่อไปยังสถานีสำโรง ภายในปลายปี 2559 หรือไม่เกินต้นปี 2560 ได้แน่นอน
“เราจะเร่งให้มีการเปิดเดินรถให้ได้ก่อนจำนวน 1 สถานี จากสถานีที่มีทั้งหมด 9 สถานี คาดว่าจะใช้เวลาการดำเนินการประมาณ 1 ปี โดยจะเปิดให้บริการได้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ได้อย่างแน่นอน ซึ่งถือว่าเปิดให้บริการเร็วกว่าเป้าหมายของรฟม.ถึง 2 ปี”
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด