กรมการขนส่งทางบก ซุ่มศึกษาความเป็นไปได้และรูปแบบการบริหารจัดการ สถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค 9 จังหวัดชายแดน และ 8 เมืองหลัก เผยจุดตั้งสถานีขนส่งสินค้าในจังหวัดเชียงราย
ผลการศึกษาจุดที่แม่สายเหมาะสมที่สุด เติมเต็มเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย เชื่อมโยงเส้นทางการขนส่งสินค้าไทยเมียนมาร์ เชื่อมเขต ศก.พิเศษในประเทศเมียนมา และ สปป.ลาว
ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ” ประจำจังหวัดเชียงราย รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้จัดสัมมนากลุ่มย่อยผู้ประกอบการที่จังหวัดเชียงราย เพื่อชี้แจงภาพรวมการศึกษาความเป็นไปได้สถานีขนส่งสินค้าในภูมิภาคและนำเสนอผลการศึกษา ซึ่งกรมการขนส่งทางบก ได้มอบหมายให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นผู้ทำการศึกษา โดยมีพื้นที่การศึกษาในโครงการ 9 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย ตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด กาญจนบุรี สงขลา และนราธิวาส บวกกับ 8 จังหวัดหลัก คือ จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี ปราจีนบุรี และสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้การศึกษาได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 และจะมีรายงานการศึกษาขั้นสุดท้ายภายในเดือนธันวาคม 2558
สำหรับการศึกษาตามโครงการนี้ในพื้นที่ภาคเหนือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร ดำเนินการศึกษา โดยในส่วนของจังหวัดเชียงรายและเมืองชายแดนอื่นๆ มีแนวคิดหลักการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าชายแดนเพื่อรองรับสินค้าที่ขนส่งระหว่างประเทศ สกัดไม่ให้รถบรรทุกจากต่างประเทศเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศไทย และรถบรรทุกของประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเดินทางออกไปนอกประเทศ โดยใช้รูปแบบของการเปลี่ยนถ่ายสินค้า(Transhipment) และการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (InterModul)
คณะผู้ทำการศึกษาได้คัดเลือกพื้นที่ 3 จุดเพื่อเป็นสถานีขนส่งสินค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยประกอบด้วย 1.พื้นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองของสำนักงานยาสูบพื้นที่เชียงราย ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย 2.พื้นที่ของเอกชนในเขตตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย และ 3.พื้นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองของสำนักงานยาสูบพื้นที่เชียงราย ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย โดยในแต่ละจุดต่างก็มีข้อเด่นและข้อด้อย แต่ว่าผลการศึกษาพบว่า จุดที่เหมาะสมมากที่สุด คือ ที่ดินราชพัสดุ 97 ไร่แปลงที่ 3 ที่อำเภอแม่สายมีความเหมาะสมมากที่สุด เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงกับเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ได้อย่างสะดวก ติดถนนสายหลัก และอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย
นายสงวน ซ้อนกลิ่นสกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ฝ่ายโลจิสติกส์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เห็นด้วยกับผลการศึกษา เนื่องจากหากก่อสร้างที่อำเภอแม่สาย จะเป็นการเติมเต็มให้กับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย ให้เมืองทั้ง 3 เมืองในเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย สามารถขนถ่ายสินค้าได้ทั้ง 3 เมือง นั่นคือ เมืองเชียงแสนที่มีท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนสามารถขนส่งสินค้าผ่านทางแม่น้ำโขงได้อยู่แล้ว ส่วนที่อำเภอเชียงของก็มีโครงการสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าไม่ห่างกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่มีเส้นทางอาร์สามเอเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้า ที่อำเภอแม่สายซึ่งมีเส้นทางอาร์สามบีพร้อมใช้อยู่แล้ว การมีสถานีขนส่งสินค้าจึงจะทำให้สามารถพัฒนาหรือยกระดับการขนส่งสินค้าจากสายเข้าไปในเมียนมาร์ รวมทั้งไปถึงจีนตอนใต้ในอนาคต
“ที่สำคัญ จังหวัดเชียงราย มีชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน 2 ประเทศ คือ เมียนมาร์ และ สปป.ลาว ที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามอำเภอเชียงแสน ก็มีเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ส่วนประเทศเมียนมาร์ขณะนี้ทางการเมียนมาร์ก็กำลังดำเนินการเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เมืองเชียงลาบ จังหวัดเมืองสาด ซึ่งเป็นที่ตั้งของสะพานมิตรภาพเมียนมาร์-ลาว เขตเศรษฐกิจพิเศษในประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2 แห่งนี้ สามารถจะเชื่อมโยงการขนส่งสินค้ากับเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงรายได้” นายสงวน กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ