นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายในงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่างรายงานฉบับสุดท้าย โครงการศึกษาและออกแบบเบื้องต้นในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยว่า
มีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับอุตสาหกรรมการบินของประเทศ โดยระยะแรกปี 2559-2561 จะมีการก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงอากาศยานและโรงซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ เพื่อรองรับธุรกิจบริการซ่อมบำรุงอากาศยาน (เอ็มอาร์โอ) จำนวน 98 ลำ ในท่าอากาศยานอู่ตะเภา และในระยะที่สอง ภายใน 10 ปี จะต้องมีการจัดตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน (โออีเอ็ม) เพื่อผลิตชิ้นส่วนลำดับที่ 3 และชิ้นส่วนลำดับที่ 4 โดยใช้พื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเป็นที่ตั้งของโรงงาน คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยเปิดให้เอกชนไทยร่วมทุนกับต่างชาติ
“หลังรับฟังสัมมนาแล้วทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะนำไปปรับรายละเอียด คาดว่าจะส่งให้กระทรวงคมนาคมเห็นชอบในเดือนตุลาคมนี้เพื่อเสนอไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป” นายอาคมกล่าว
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในระหว่างเดินทางตรวจเยี่ยมโรงงานซ่อมบำรุงระบบราง ของบริษัท อีสท์ เจแปน เรียลเวย์ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า การซ่อมบำรุงระบบรถไฟฟ้าจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต เพราะไทยกำลังพัฒนาระบบรถไฟฟ้าในเมืองอีกหลายเส้นทาง ซึ่งการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศผู้นำระบบรถไฟฟ้า จะมีส่วนช่วยให้การหมุนเวียนรถไฟฟ้า และการซ่อมบำรุงระบบรถเกิดความคล่องตัวมากขึ้น
นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ได้ร่วมกับบริษัท มารูเบนิ (Marubeni) บริษัท โตชิบา (Toshiba) และบริษัท อีสท์ เจแปน จัดตั้งบริษัท เจแปน ทรานสปอร์ต เทคโนโลยี (ประทศไทย) เพื่อดูแลงานซ่อมบำรุง รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่บางซื่อ ซึ่งการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้เพื่อรับถ่ายทอดเทคโนโลยีด้วย
ส่วนความคืบหน้าการตั้งกรมการขนส่งทางรางนั้น ล่าสุดได้ยกร่างกฎหมายจัดตั้งเสร็จแล้ว และได้ถามความคิดเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6-7 หน่วยด้วย หากให้ความเห็นชอบ ก็จะสามารถเดินหน้าจัดตั้งกรมรางได้ทันที
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน