ส.สินเชื่อที่อยู่อาศัยระบุ ศก.ชะลอกระทบอสังหาฯ เชื่อผู้ประกอบการรายใหญ่รับมือได้ ห่วง รายกลางและเล็กเหตุสายป่านสั้น เชื่อ ครม.ใหม่สานต่องานได้ หวังออกมาตรการช่วยภาคอสังหาฯ พร้อมกระทุ้งรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกระตุ้นเศรษฐกิจ
เตือนผู้ประกอบการระวังลงทุนโครงการใหญ่-รักษาสภาพคล่องให้อยู่ได้นานกว่า 1 ปีกรณีขายไม่ได้
นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อ ที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ร่วมกับบริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ จำกัด ได้เปิดงานอภิมหกรรมบ้าน- คอนโดฯ และสินเชื่อแห่งปี “NPA & Resale Home 2015” มหกรรมอสังหาริมทรัพย์และบ้านมือสอง “Home Loan & Consumer Credit 2015” มหกรรมสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคล และงาน “Home Buyers’ Expo 2015” มหกรรมเลือกซื้อบ้าน-คอนโดฯ ระหว่างวันที่ 20-23 สิงหาคม 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อำนาจ ต่อรองอยู่ในมือของผู้ซื้อ ช่วงเวลาทองของคนอยากมีบ้าน โปรโมชันแรง ดอกเบี้ยต่ำ” ซึ่งในปีนี้ได้มีการรวบรวม โครงการที่อยู่อาศัย บ้านและคอนโดมิเนียม กว่า 300 โครงการ, บ้านมือสอง บ้าน NPA จาก 9 สถาบันการเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคลจาก 6 สถาบันการเงิน ซึ่งแต่ละโครงการแข่งกันจัดโปรโมชัน แคมเปญ กระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคกัน ซึ่งนับเป็นโอกาสทองของคนอยากมีบ้านอย่างแท้จริง
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ตั้งเป้ามียอดขอสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามียอดขอสินเชื่อ 18,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย NPA ตั้งเป้า 1,500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 1,100 ล้านบาท ส่วนยอดผู้เข้าชมงานคาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา 80,000 ราย มียอดขายที่อยู่อาศัยรวม 3,376 ล้านบาท
ศก.กระทบอสังหาฯ ชะลอหวัง ครม.ใหม่ออกมาตรการช่วย
นายกิตติ กล่าวต่อว่า ภาพรวมสินเชื่อสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10% จากยอดสินเชื่อคงค้างสิ้นปี 57 อยู่ที่ 2.8 ล้านล้านบาทเป็น 3 ล้านล้านบาท ในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปีนี้อสังหาริมทรัพย์ จะยังคงขยายตัวได้ แม้ว่าเศรษฐกิจขจะชะลอตัวโดยที่อยู่อาศัยแนวราบ ผู้ประกอบการสามารถยืดระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้กับธนาคารได้นานขึ้น เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อได้ ส่วนคอนโดมิเนียม แม้ว่าผู้ประกอบการจะมีปัญหาทางด้านการเงิน แต่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทจดทะเบียนจึงสามารถระดมทุนผ่านหุ้นกู้ได้ แต่สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กอาจมีปัญหา ใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงิน แต่ได้มีการวางแผนรับมือไว้แล้ว จึงมองว่าในช่วงครึ่งหลัง โครงการต่างๆ สามารถดำเนินการได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลต่อภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายกลางและเล็ก ที่สายป่านสั้น ไม่เหมือนผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่ส่วนใหญ่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ได้
นายกิตติกล่าวต่อว่า สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น ครม. ชุดใหม่คงจะสานต่อครม.ชุดเดิมได้เป็นอย่างดี เพราะหากพิจารณาเป็นรายบุคคล คุณสมบัติทีมเก่ากับทีมใหม่ก็ไม่ต่างกัน โดยต้องการให้มีการสานต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายคมนาคม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการวางรากฐานประเทศ ส่วนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ ก็สามารถทำได้ เนื่องจากไทยมีฐานะการเงินการคลังที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นมาตรการเดิมๆ
แนะระวังลงทุนโครงการใหญ่-รักษาสภาพคล่องการเงิน
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ขณะนี้เริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และกำลังซื้อลดลง โดยในช่วงครึ่งปีแรกตัวเลขยอดขายใหม่ติดลบ ผลจาก ผู้บริโภคขาดความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป แม้ว่าบ้านจะเป็นสินค้าจำเป็นแต่เป็นภาระผูกพันธ์ระยะยาว ดังนั้น จึงหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาฯ ซึ่งจะช่วยผลักดันตัวเลขยอดขายอสังหา- ริมทรัพย์ทั้งปี เติบโตได้ 0-5% ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์จะคงเติบโตต่อเนื่อง จากครึ่งปีแรกยอดการโอนฯ มีการเติบโต และยิ่งการประเมินราคาที่ดินใหม่ มีผลใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2559 จะมีผลให้ค่าธรรมเนียมการโอนเพิ่มสูงขึ้น จะเป็นอีกปัจจัยเร่งให้เกิดการโอนฯมากขึ้น ส่วนตัวเลขการปฎิเสธสินเชื่อของสถานบันการเงิน(รีเจกต์) ทั้งอุตสาหกรรมพบว่า เฉลี่ยอยู่ที่ 20-25% เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ที่ 20%
นายอธิปกล่าวต่อว่า ในครึ่งปีหลัง ผู้ประกอบการจะต้องเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ที่ลงทุนระยะยาว 2-3 ปีขึ้นไป เนื่องจากสถานการณ์ไม่แน่นอน ควรหันมาพัฒนาโครงการขนาดเล็กที่ปิดการขายได้เร็ว และการรักษาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทไว้ให้ดี ต้องสามารถอยู่ได้นานกว่า 1 ปี ภายใต้สถานการณ์ยอดขายใหม่ไม่ดีเท่าที่ควรหรือขายไม่ได้
“ตอนนี้เห็นแต่ผู้ประกอบการจัดงานโล๊ะของเก่ามากกว่าเปิดโครงการใหม่ มุ่งเน้นการระบายสต๊อกที่มีอยู่มากกว่า เพื่อสร้างรายได้เข้ามาในบริษัทเร็วขึ้น” นายอธิปกล่าว
ที่มา : ASTVผู้จัดการรายวัน