อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้รับ การยกขึ้นเป็น “ศูนย์กลางการค้าชายแดนไทย-เมียนมา” และชื่อนี้กำลัง “เนื้อหอม” เพราะตั้งอยู่ บนแนวเส้นทางพัฒนาการค้า การลงทุน East West Economic Corridor และยังเป็น “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก” (Tak Special Economic Development Zone) ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ ที่สำคัญของประเทศ ทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ แหล่งทรัพยากร และเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงไปยังภูมิภาคอื่น ๆ
มูลค่าการส่งออกผ่าน อ.แม่สอด ในปีงบประมาณ 2558 สูงถึง 64,240 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 14.8% และหากคิดย้อนหลังไป 5 ปี คือตั้งแต่ ปี 2554-2558 จะพบว่าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แค่ “ด่านศุลกากรแม่สอด” เพียงด่านเดียว มีสินค้าผ่านแดนและขนถ่ายสินค้า มูลค่าสูงถึง 16,114 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขเพิ่มขึ้นทุกปี
เร่งสร้างสะพานน้ำเมยแห่งที่ 2
ห้วงเวลานี้ หากใครเดินทางไป อ.แม่สอด จะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ของรัฐบาลที่มุ่งผลักดันให้ “แม่สอด” เป็นเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่าง เด่นชัด โดยอันดับแรกคือ ถนนที่แยกจากสายเอเชียเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ อ.แม่สอด ขณะนี้กำลังก่อสร้างเป็นระยะ ๆ หากดูตามแผนการก่อสร้างของจังหวัดตากแล้วระบุว่า เป็นการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 12 สายตาก-แม่สอด (ตอน 3) ได้รับงบประมาณแล้ว 1,400 ล้านบาท เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 จะแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2560
ส่วนที่อยู่ระหว่างการเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณคือ โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 12 สายตาก-แม่สอด (ตอน 4) จุดเริ่มโครงการอยู่บริเวณเขาพระวอถึงดอยสน ประมาณ 26 กิโลเมตร งบประมาณ 1,550 ล้านบาท โดยได้รับจัดสรรงบฯผูกพัน งบประมาณปี 2559-2560
จากนั้นมุ่งหน้าตรงไปในตัวอำเภอ จนถึงเส้นทางสายหลักใจกลางเมืองแม่สอด คือถนนสายแม่สอด-ริมเมย ก็อยู่ระหว่างการก่อสร้างและปรับปรุง ขยายเป็น 4 เลน ฉะนั้น ภูมิทัศน์ในตัวเมืองแม่สอดเวลานี้อาจสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจแก่นักท่องเที่ยว เนื่องจากเต็มไปด้วยการก่อสร้างมากมาย อย่างไรก็ดี ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลัง ดำเนินการอยู่นี้ “สมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ”ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ยืนยันหนักแน่นว่า จะเสร็จสิ้นภายในปี 2559 แน่นอน
หากมองดูทางกายภาพ แม่สอดเติบโตและเจริญขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา ที่เห็นได้ชัดคือ ทุนจากส่วนกลางที่เข้าไปลงทุน ในอำเภอแม่สอด ทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง อาทิ โรบินสันไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ แม่สอด เห็นแล้วต้องตะลึงกับความกว้างใหญ่ของห้าง ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมเซ็นทารา แม่สอด ฮิลล์ รีสอร์ท วางจุดขายเป็น “ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์” ร่วมกับแม็กเนต ในเครือเซ็นทรัล บนพื้นที่ 54,000 ตร.ม. ตามแผนแล้วจะเปิดตัวในปลายปี 2558 นี้
ขณะที่กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า “บมจ. เอ็ม บี เค” หรือกลุ่มมาบุญครอง มีแผนการลงทุนในรูปแบบไลฟ์สไตล์มอลล์ ขนาดพื้นที่ 20,000 ตร.ม. ถือว่าเป็นสาขา แห่งแรกในต่างจังหวัดของเอ็มบีเค และจะเป็นแม่แบบก่อนจะขยายการลงทุน ไปยังเขตเศรษฐกิจอื่น ๆ
นอกจากนี้ “แม็คโคร” ก็ได้เปิดสาขาแม่สอด เป็นสาขาที่ 73 โดยหวังกำลังซื้อจากตลาดในเมียนมา ทั้งที่ จ.เมียวดี และจังหวัดอื่น ๆ ของเมียนมา ที่จะเดินทาง มาจับจ่ายซื้อสินค้า ส่วน “เทสโก้ โลตัส”ได้เข้าไปลงทุนเพิ่มความคึกคักใน อ.แม่สอด โดยส่งโมเดลเอ็กซ์ตร้าไปชิมลางตลาด มีพื้นที่ร้านค้าเช่าเป็นผู้เช่ารายย่อยในท้องถิ่นและจากส่วนกลาง บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยคึกคัก มีสินค้าจำนวนมาก สินค้าที่ขายดีหลัก ๆ เป็นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในบ้าน และสินค้าแฟชั่น
อสังหาฯแม่สอดเฟื่องฟู
นอกจากมีห้างขนาดใหญ่เกิดขึ้น หลายห้างแล้ว ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างคือ การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ มีตั้งแต่คอนโดมิเนียม โรงแรมบูติค รีสอร์ตขนาดกลาง โครงการบ้านจัดสรร และอาคารพาณิชย์ เกิดขึ้นทั้งสองฝั่งถนนและเกือบทุกสายในเขตตัวเมืองแม่สอด โดยเฉพาะ คอนโดมิเนียมปัจจุบันได้ก่อสร้างและเปิดขายแล้วหลายโครงการ
“บรรจง ทองทวีศรี” นักธุรกิจสิ่งทอและอสังหาฯใน อ.แม่สอด เล่าให้ฟังว่า เขาเติบโตมาจากการค้าชายแดน แม่สอดเท่าที่เห็นในขณะนี้ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบที่สุด เพราะสามารถขนส่งสินค้าจากที่นี่ไปเมืองย่างกุ้ง เมียนมา หรือไปจีน ไปบังกลาเทศก็ได้ เส้นทางเชื่อมโยงกันเป็นใยแมงมุม สะดวกรวดเร็ว
“ผมทำธุรกิจค้าชายแดนมาตลอด มองเห็นเลยว่าเศรษฐกิจบ้านเราตอนนี้เป็นลบ แต่ผิดคาดที่การส่งออกที่แม่สอดเป็น “บวก” ซึ่งบวกขึ้น 20% ของมูลค่าการ ส่งออก 6,000-7,000 ล้านบาทต่อเดือน ธุรกิจของผมมีทั้งสิ่งทอและอสังหาฯ แต่สิ่งทอ ผมมีโรงงานอยู่ที่ย่างกุ้ง ซึ่งก็ขายดีมาก เพราะพม่าใช้สิ่งทอค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าผู้หญิง หรือผู้ชาย ส่วนอสังหาฯเพิ่งทำโครงการ คอนโดฯ และอาคารพาณิชย์ เฟสแรกเนื้อที่ 3 ไร่ในแม่สอด เวลานี้ขายหมดแล้ว กำลังขึ้นเฟสสอง ราคาขายห้องละ 5 ล้านบาท ถือว่าไม่แพงสำหรับแม่สอด โครงการของผมทำเหมือนว่าผมอยู่เองจึงมีคุณภาพ ทำให้คนจากกรุงเทพฯ กำแพงเพชร จาก อ.แม่ระมาด หรือจากเมียนมา มาซื้อกันเยอะ” บรรจงเล่าอย่างสนุก เขามองว่าการค้าชายแดนเป็นเรื่องที่หยุดนิ่งไม่ได้ เพราะมีตัวแปรตลอดเวลา ต้องมีสินค้าใหม่ ๆ มาตลอด
“ดร.เทอดเกียรติ ชินสรนันท์” นายกเทศมนตรีนครแม่สอดยังบอกด้วยว่า ในแม่สอดยังมีกลุ่มทุนจากจีนเข้ามาลงทุนสร้างคอนโดฯหรูในเขตเทศบาลนครแม่สอด ซึ่งถือเป็นโครงการขนาดใหญ่มาก ใช้เงินลงทุนถึง 50,000 ล้านบาท พื้นที่ 25 ไร่ เป็นคอนโดฯ 13 แท่ง จำนวน 2,900 ห้อง กำหนดแล้วเสร็จใน 5 ปี มีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และบริการอื่น ๆ เท่ากับเป็น การกระตุ้นการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตาก สิ่งที่เทศบาลนครแม่สอดจะต้องดำเนินการคือเรื่องสาธารณูปโภค จะต้องรองรับการลงทุนที่เกิดขึ้นใหม่อย่างเพียงพอ รวมทั้งการกำจัดขยะมูลฝอย การสร้างภูมิทัศน์ ที่สวยงามให้กับ อ.แม่สอด
ออกจากตัวเทศบาลนครแม่สอดไป รอบนอก ยังไม่พ้นการก่อสร้างที่มีให้เห็นเป็นระยะ อาทิ โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 130 และการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 พร้อมโครงข่ายบริเวณบ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด และแนวเส้นทางถนนเชื่อมสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางตอม่อสะพาน และตัดถนน 4 เลน และถนนบายพาสจากบริเวณสะพาน ไปยังถนนสายแม่สอด-ริมเมย ให้บรรจบกัน
สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 นี้ เป้าหมายเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าที่มากขึ้น และระบายการขนส่งสินค้า ของรถบรรทุกจากสะพานแห่งที่ 1 เพราะปัจจุบันมีความแออัดในการขนส่ง สินค้า สะพานแห่งที่ 2 นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากกล่าวว่า จะใช้เวลาปีเศษ ในการดำเนินการ จะแล้วเสร็จต้นปี 2560 และยังต้องสร้างด่านศุลกากรแห่งใหม่เพิ่มเติมอีกบริเวณสะพานแห่งที่ 2
ด้วยศักยภาพการค้าชายแดนไทยเมียนมาของ จ.ตาก ตัวเลขจากทางจังหวัดระบุว่า ปัจจุบันมูลค่าอยู่ที่ 1.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 19-20% เฉพาะที่แม่สอดปีที่แล้ว มีมูลค่าการค้าชายแดนอยู่ที่ 64,308 ล้านบาท
แต่การคาดหมายของพ่อเมือง บอกว่า ปีนี้ทั้งปีน่าจะมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท !!
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ