ธปท.จับตาคอนโดฯราคามากกว่า 5 ล้านบาทตามแนวรถไฟฟ้า ห่วงดีมานด์น้อยกว่าซัพพลายที่แข่งกันลงเสาเข็มมาก่อนหน้า หวั่นเศรษฐกิจชะลอตัวมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อมากขึ้น
ฟากแบงก์พาณิชย์ฟันธงไร้สัญญาณฟองสบู่ ชี้แค่ ผู้ซื้อลังเลตามภาวะเศรษฐกิจ ส่วน ผู้ประกอบการปรับโฟกัสลดจำนวนขึ้นโครงการใหม่ พร้อมจัดแคมเปญเร่งโอนเร็วขึ้น
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากการ สำรวจของทีมงาน ธปท. พบว่า ขณะนี้เริ่ม เห็นสัญญาณดีมานด์ (ความต้องการ) คอนโดมิเนียมในจุดต่าง ๆ ลดลง โดยเฉพาะโครงการยูนิตละ 5 ล้านบาทขึ้นไป และอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า แต่จะกลายเป็นสัญญาณฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์หรือไม่นั้น ธปท.ต้องศึกษาผลสำรวจต่าง ๆ ให้รอบคอบในระยะต่อไปก่อน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่างคาดการณ์ว่าจะมีดีมานด์คอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า จึงได้แข่งกันก่อสร้างเพื่อรองรับอนาคต ซึ่งส่วนนี้ ธปท.มีความกังวลว่าจะมีดีมานด์ตามจำนวนโครงการที่ก่อสร้างจริงหรือไม่ ประกอบกับในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เช่นนี้จะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของ ผู้บริโภคหรือไม่
“ตอนนี้เรามีข้อมูลโครงการกลุ่ม ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ที่ทุกคนพูดตรง กันว่า เป็นโครงการเกิดขึ้นตามแนว รถไฟฟ้า แต่ก็ต้องใช้เวลาศึกษาและ ทำการบ้านกับเรื่องนี้เพิ่มเติมอีก ส่วนคำถาม ว่าข้อมูลนี้จะนำไปสู่การเพิ่มความเข้มงวด หรือออกมาตรการเข้ามาดูแลสถาบัน การเงินที่ให้สินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มเติมหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ในเวลานี้ และต้องเข้าใจสถานการณ์ ให้ชัดเจนก่อนว่าอะไรเป็นอะไร แล้วค่อย พูดถึงมาตรการดูแลในลำดับต่อไป” นางรุ่งกล่าว
นายวิศรุต ปัญญาภิญโญผล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวว่า ในฝั่งของธนาคารยืนยันว่ายังไม่เห็น สัญญาณฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่สิ่งที่เห็นคือสัญญาณการชะลอตัวลง จากช่วงก่อนหน้านี้ที่ดีเวลอปเปอร์ขยายการลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไปจำนวนมาก และอาจจะมากกว่าความต้องการของตลาด
“ตอนนี้เริ่มเห็นผู้ประกอบการตระหนักแล้วว่า มีซัพพลายในตลาดมากเกินไป ระยะหลังจึงเห็นผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการใหม่ เช่น เดิมเคยสร้างทีเดียว 5 โครงการ ตอนนี้อาจจะเหลือ 2-3 โครงการ ดังนั้นจึงไม่น่าเกิดฟองสบู่แบบที่ทำให้เกิดการเก็งกำไรจนราคาเพิ่มขึ้นมากแล้วฟองสบู่แตกจนราคาตกอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้น แต่สถานการณ์ตอนนี้ผู้บริโภคเกิดอาการเฉา กล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะซื้อ อีกอย่างตอนนี้ก็เห็นการซื้ออสังหาฯเพื่อการลงทุนหรือเก็งกำไรไม่ค่อยเติบโตด้วยซ้ำ” นายวิศรุตกล่าว
นายอลงกต บุญมาสุข ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่เกิดขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัยในระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไป และที่ผ่านมาก็เป็นกลุ่มที่เติบโตได้มาตลอด แต่ยอมรับว่าอัตราการเติบโตอาจปรับตัวชะลอลงบ้าง ขณะที่ปริมาณการก่อสร้างโครงการใหม่ ๆ ก็ยังทยอยสร้างและทยอยขายอยู่เรื่อย ๆ
“คงไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นสถานการณ์ที่ ผู้ประกอบการปรับตัวหาตลาดที่ยังเติบโตได้ คือผู้ซื้อที่มีรายได้ 50,000 บาทขึ้นไป และต้องการซื้อที่อยู่อาศัยราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป แต่ที่น่าห่วงคือในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะมียอดการโอนโครงการที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ 2 ปีก่อนเข้ามาจำนวนมาก แล้วลูกค้าเหล่านั้นจะสามารถโอนได้มากน้อยเพียงใด เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจเปลี่ยนไป ดังนั้น ช่วงที่ผ่านมาดีเวลอปเปอร์จึงต้องออกแคมเปญกระตุ้นการโอนเป็นจำนวนมาก” นายอลงกตกล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ