แบงก์เกียรตินาคิน หรือ เคเค เร่งกระจายพอร์ตสินเชื่อ ลดความเสี่ยงกระจุกตัวสินเชื่อ “เช่าซื้อ-อสังหาฯ” หันพึ่งรายย่อย-รายใหญ่ หวัง 3-5 ปีสินเชื่อเช่าซื้อต่ำกว่า 50%
พร้อมจับผู้ประกอบการอสังหาปล่อยกู้สินเชื่อบ้านระบุมีพอร์ตแล้ว 1 พันล้าน มั่นใจทั้งปีปล่อยรายใหญ่ได้ตามเป้า 2 หมื่นล้าน ส่วนเช่าซื้อครึ่งหลังกลับมาโตได้หลังผ่านจุดต่ำสุด
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเกียรตินาคิน เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งแรกของปีธนาคารมีเงินให้สินเชื่อรวม 175,717 ล้านบาท ลดลง 4.8% จากสิ้นปี 2557 แต่ช่วงที่เหลือของปีนี้ธนาคารเชื่อว่า สินเชื่อจะกลับมาเติบโตได้ และทำให้ตลอดทั้งปีสินเชื่อของธนาคารสามารถทรงตัวอยู่ได้ ในระดับเดียวกับสิ้นปีก่อนที่มี 1.8 แสนล้านบาท
สินเชื่อส่วนใหญ่หรือกว่า 80% เป็นสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผล กระทบจากเศรษฐกิจ และโครงการรถคันแรกในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นในช่วงที่เหลือของปีนอกจากการระมัดระวังคุณภาพสินเชื่อแล้ว ในช่วงที่เหลือของปี ธนาคารยังจะให้ความสำคัญกับการกระจายพอร์ตสินเชื่อด้วย โดยสินเชื่อ เพื่อการอุปโภค หรือบริโภคจะมีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย ส่วนสินเชื่อบุคคลธนาคารมองว่า ยังไม่ใช่จังหวะที่จะเข้าไปทำตลาดในขณะนี้ โดยในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า สัดส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อจะลดลงเหลือต่ำกว่า 50% จากในอดีตที่เคยมีกว่า 74-75% โดยล่าสุดมีสัดส่วน 67%
ทั้งนี้การขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัยนั้น ธนาคารได้เริ่มให้สินเชื่อไปแล้วประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือปล่อยใหม่เดือนละ 100 ล้านบาท โดยเน้นการให้การสนับสนุนสินเชื่อกับลูกค้าที่ซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ ของลูกค้า ผู้ประกอบการที่ธนาคารปล่อยสินเชื่ออยู่แล้ว
นอกจากนี้ยังจะกระจายพอร์ตสินเชื่อ ไปยังธุรกิจขนาดใหญ่ รวมถึงสินเชื่อลอมบาร์ด ซึ่งเป็น เงินกู้สำหรับลูกค้าบุคคลรายใหญ่ ซึ่งใช้เงินลงทุนของลูกค้าเป็นหลักประกัน ที่ได้เริ่มให้บริการเมื่อเดือนที่ผ่านมาและในขณะนี้ มียอดคงค้างกว่าพันล้านบาทแล้ว
เขากล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารเริ่มปล่อย สินเชื่อรายใหญ่หมื่นล้านบาท แต่ในช่วงที่ผ่านมา มีการชำระคืนหนี้ก่อนกำหนดทำให้พอร์ตสินเชื่อ คงค้างเหลืออยู่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และเดือนก.ค. ที่ผ่านมามีลูกค้าเบิกถอนสินเชื่อไปแล้ว 3 พันล้านบาท
ส่วนเป้าหมายปีนี้ ธนาคารมีแผนที่จะปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ 2 หมื่นล้านบาท แต่ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ธนาคารปล่อยไปแล้ว 8 พันล้านบาท จึงเชื่อว่าจะปล่อยได้ตามเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ และจะเห็นพอร์ตสินเชื่อรายใหญ่ ที่ 5 หมื่นล้านบาทในอนาคต
ส่วนสาขาจะเน้นทำเลที่มีศักยภาพ และคาดจะมีจำนวน 72-74 สาขา จึงจะเพียงพอรองรับการขยายสินเชื่อให้ไปถึง 3 แสนล้านบาทใน 3-5 ปีข้างหน้า “เราเชื่อว่าสินเชื่อครึ่งปีหลังยังโตได้ เพราะเรามีสินเชื่อที่เพิ่งเริ่มทำเช่นรายใหญ่และ ลอมบาร์ดโลน ในแง่ธุรกิจเดิมคือเช่าซื้อเชื่อว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังจากครึ่งปีแรก สินเชื่อเช่าซื้อยังลดลง 5% แต่เชื่อว่า จะได้อานิสงส์ จากภาษีรถที่จะลดลง รวมถึงเศรษฐกิจฟื้นช่วยหนุนกำลังซื้อ ขณะที่รถเก่า มีสัญญาณที่ดีขึ้นแล้ว นอกจากนี้การให้สินเชื่อเช่าซื้อ มีการรวมศูนย์กระบวนการอนุมัติสินเชื่อไว้ที่ส่วนกลาง และใช้เครื่องมือในการพิจารณาสินเชื่อ จากเดิมที่ให้แต่ละสาขาพิจารณา ช่วยให้การบริหารความเสี่ยงมีมาตรฐานมากขึ้น”
สำหรับแนวโน้มเอ็นพีแอลช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่า จะปรับตัวดีขึ้น หากพิจารณาจากสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงพิเศษ (Special Mention) ที่จะเป็นตัวสะท้อนเอ็นพีแอลในอนาคตนั้น ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ลดลงแล้ว ขณะเดียวกันธนาคารได้ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ให้ลูกค้าธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าสิ้นปีนี้เอ็นพีแอลของธนาคารจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 6% จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.9%
อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่เน้นการขาย เอ็นพีแอลออกไปมากนัก เพราะธนาคารมี ธุรกิจบริหารหนี้เอง แต่อาจจะมีหนี้จำนวน หนึ่งที่ธนาคารไรท์ออฟจากบัญชีไปแล้ว และเป็นหนี้เก่าที่บริหารได้ยากอาจขายออกไปบ้างเล็กน้อย
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ