“เชียงของ” คึกคักรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ กลุ่มทุนพาเหรดปักธง “ซี.พี.แลนด์” เสือปืนไวผุดโรงแรมบูติคหรูริมแม่น้ำโขง ด้านบริษัทเมืองเงิน ดีเวลลอปเม้นท์ฯอ้างที่ดินแพง ย้ายที่ตั้งจากตำบลศรีดอนชัยไปตำบลบุญเรือง ใช้สิทธิเขต ศก.พิเศษแทน
ขณะที่ “ม.แม่โจ้” ขยายวิทยาเขตที่ตำบลบุญเรืองกว่า 1.2 พันไร่ ราคาที่ดินพุ่ง เสนอรัฐฟื้นการค้าชายแดนเชื่อมเมืองห้วยทราย เพิ่มท่าขนส่งสินค้า 4 จุด พร้อมส่งเสริมเกษตรกรปลูกเงาะ ทุเรียน ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ส่งออกไปลาว-จีน
ตำบลบุญเรืองฮอตสุดสุด
นายวิรุฬ สิทธิวงศ์ ปลัดอาวุโส อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภายหลังจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ประกาศกำหนดพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 ให้ท้องที่ตำบลบุญเรือง ตำบลริมโขง ตำบลเวียง ตำบลศรีดอนชัย ตำบลสถาน ตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 ซึ่งครอบคลุมทุกตำบลในอำเภอเชียงของนั้น ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนหลายกลุ่มที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในอำเภอเชียงของ อาทิ กลุ่มบริษัทเมืองเงิน ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างทุนไทย-ญี่ปุ่นและลาว
โดยได้เตรียมที่จะลงทุนสร้างนิคมอุตสาหกรรมอีกครั้ง หลังจากชะลอโครงการไปเมื่อหลายปีก่อน ภายใต้การบริหารจัดการของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งได้เข้ามาสำรวจดูพื้นที่สาธารณประโยชน์หลายแปลง เช่น พื้นที่ตำบลบุญเรือง พื้นที่ขนาดใหญ่จำนวนกว่า 3,000 ไร่
ขณะเดียวกัน บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) ในเครือซีพี ก็ได้เข้ามาลงทุนสร้างโรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์ วิว เชียงของ อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ในเขตตำบลเวียง มูลค่าหลายร้อยล้านบาท เป็นโรงแรมสไตล์บูติครีสอร์ต ขนาด 4 ชั้น จำนวน 4 หลัง โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2557 มีกำหนดแล้วเสร็จวันที่ 1 ธันวาคม 2558 ส่วนมหาวิทยาลัยแม่โจ้ก็มีแผนที่แน่นอนแล้วว่าจะเข้ามาลงทุนสร้างวิทยาเขต บนพื้นที่ 1,200 ไร่ ในเขตตำบลบุญเรือง
ราคาที่ดินในเมืองพุ่งไร่ละ 6 ล้าน
นายวิรุฬกล่าวว่า พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เชียงของจะมีการจัดวางโซนนิ่งที่ชัดเจนออกจากเขตอนุรักษ์เมืองเก่าเชียงของ ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายและอำเภอเชียงของถือ เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพที่อยู่บนแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) ซึ่งสามารถไปทางเหนือเชื่อมโยงกับจีนตอนใต้ (มณฑลยูนนาน) ได้ทั้งทางบกและน้ำ โดยทางบกมี 2 เส้นทางคือ
ถนน R3A (ผ่านด่านเชียงของและ สปป.ลาว) และถนน R3B (ผ่านด่านแม่สายและเมียนมา) ส่วนทางน้ำสามารถขนส่งเส้นทางแม่น้ำโขงผ่านด่านท่าเรือเชียงแสน
สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่กำหนดให้ลงทุนได้ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงของจะเป็นอุตสาหกรรมเบา และไม่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตร ประมง เครื่องประดับ และอุตสาหกรรมที่สนับสนุนการท่องเที่ยว เป็นต้น
ในส่วนของความเคลื่อนไหวราคาที่ดินหลังจากอำเภอเชียงของถูกประกาศให้ เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ก็พบว่าราคาที่ดิน ปรับตัวสูงขึ้น จากเดิมราคาประเมินซื้อขายที่ดินในเขตตัวเมืองอยู่ที่ไร่ละ 4-5 แสนบาท ขณะนี้ได้ปรับสูงขึ้นถึง ไร่ละ 6 ล้านบาท
ชงเพิ่มท่าขนส่งสินค้า 4 แห่ง
นายวิรุฬกล่าวต่อว่า หลังจากที่เปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ- ห้วยทราย) ได้ส่งผลให้สภาพการท่องเที่ยว ในตัวเมืองเชียงของที่เคยคึกคักกลับ เงียบเหงาลง เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะข้ามสะพานมิตรภาพ 4 เพื่อเดินทางไปประเทศลาว ซึ่งพบว่านักลงทุนรายใหญ่ ได้ประโยชน์ แต่ผู้ประกอบการรายย่อยใน
พื้นที่ไม่สามารถแข่งขันได้ อำเภอเชียงของเป็นแค่ทางผ่านในการขนส่งสินค้า ขณะที่การเดินทางข้ามแดนหรือการค้าขายข้ามแม่น้ำโขงผ่านท่าเรือบั๊ค รวมถึงการขนส่งสินค้าของคนไทยและคนลาวมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งต้องจ่ายค่าเรือข้ามฟาก 50 บาท และ ค่าหนังสือผ่านแดน (Border Pass) อีก 300 บาท เป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูงในการข้ามมาซื้อของหรือค้าขายที่ฝั่งไทย
อย่างไรก็ตามได้มีข้อเสนอจากหลาย ภาคส่วนที่ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาแก้ปัญหา โดยให้มีการเปิดใช้พาสปอร์ต ณ ท่าเรือบั๊ค เพราะประชาชนของ 2 ประเทศและ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มีความต้องการ เดินทางข้ามแดนบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้การค้าและการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ขณะเดียวกันรัฐต้องส่งเสริม การค้าขายชายแดนระหว่างอำเภอเชียงของกับเมืองห้วยทรายให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าชายแดน ด้วยการเพิ่มจุดท่าขนส่งสินค้าให้มากขึ้น ในจุดที่มีศักยภาพ 4 จุดคือ ในพื้นที่ตำบลริมโขง ตำบลเวียง ตำบลสถาน และตำบลศรีดอนชัย ซึ่งสามารถ เพิ่มศักยภาพในการค้าขายระหว่างกันได้มากขึ้น
นายวิรุฬกล่าวว่า ขณะนี้ทางอำเภอเชียงของมีแผนส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกพืชผักและผลไม้ เพื่อส่งออกไปลาวและจีน อาทิ ส้ม เงาะ ทุเรียน โดยเฉพาะข้าวเหนียวเขี้ยวงูที่อำเภอเชียงของเป็นแหล่งผลิตใหญ่และมีคุณภาพดี
ปูนซิเมนต์ไทยบุกจีนตอนใต้สอดคล้องกับ นายสงวน ซ้อนกลิ่นสกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ในพื้นที่อำเภอเชียงของปัจจุบัน มีกลุ่มทุนเข้าไปลงทุนอย่างหลากหลาย ล่าสุดบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี จะมีการส่งสินค้าในเครือผ่านอำเภอเชียงของไปยังจีนตอนใต้ โดยต้องการขนส่งและเปลี่ยนถ่ายที่ชายแดน แต่เนื่องจากการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าชายแดนที่เชียงของยังไม่คืบหน้า กลุ่มเอสซีจีได้หันมาใช้บริการของเอกชนในการขนส่งสินค้าในเครือหลายรายการจากจังหวัดเชียงราย-ถนนอาร์สามเอ-เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2558 เป็นต้นไป โดยจะมีการส่งสินค้าไปยังประเทศจีนอย่างน้อย 5 ปี
สำหรับราคาที่ดินในเชียงของยังคง ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เช่น ทุ่งสามหมอน ตำบลสถาน และตำบลศรีดอนชัย ราคาที่ดินติดถนนไร่ละ 3 ล้านบาทขึ้นไป และพื้นที่ชั้นใน ไร่ละ 9 แสนบาทถึง 1.2 ล้านบาท ส่วนเขตตำบลเวียง ราคาไร่ละ 6 ล้านบาท ขึ้นไป
บ.เมืองเงินขอใช้เขต ศก.ผุดนิคม
ด้าน พล.ท.พงษ์เอก อภิรักษ์โยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองเงิน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ทำสัญญากับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในการเข้าไปพัฒนาพื้นที่อำเภอเชียงของ ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 ซึ่งจากเดิม กนอ.ได้ศึกษาและกำหนดให้พื้นที่ทุ่งสามหมอน ตำบลสถาน และตำบลศรีดอนชัย พื้นที่ 12,000 ไร่ จัดตั้งเขตอุตสาหกรรม แต่ล่าสุดนี้บริษัทได้ยกเลิกแผนลงทุนในพื้นที่ทุ่งสามหมอนแล้ว เนื่องจากที่ดินมีราคาแพงทำให้ต้นทุนสูงมาก
ทั้งนี้ จึงได้เสนอไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อขอใช้พื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 จำนวน 2,000 ไร่ ได้แก่ พื้นที่เลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์บุญเรือง ตำบลบุญเรือง อำเภอเชียงของ เนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ พัฒนาเป็นเขตอุตสาหกรรม และที่สาธารณประโยชน์บ้านทุ่งงิ้ว หมู่ 2 ตำบลสถาน อำเภอเชียงของ เนื้อที่ 500 ไร่ เตรียมพัฒนาเป็นศูนย์ เปลี่ยนถ่าย-กระจายสินค้า และโกดังสินค้า
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ