อุตฯ พลาสติก ยื่นบีโอไอปรับสิทธิประโยชน์ เปิดทางให้อุตฯ พลาสติกทั่วไปตั้งในเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนได้รับสิทธิ์ คาดจะมีโรงงานนำร่อง 10 ราย
นายอัฒฑวุฒิ หิรัญบูรณะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการตั้งนิคมอุตสาหกรรมพลาสติก ในเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3-4 เดือนข้างหน้า โดยในระหว่างนี้ได้เชิญชวนผู้ประกอบการให้เข้ามาลงทุนและจะพาไปลงดูพื้นที่จริงเพื่อประกอบการตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมพลาสติก ได้ยื่นเสนอให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ปรับแก้ในรายละเอียดของประกาศส่งเสริมการลงทุน โดยในส่วนของกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติกจะได้รับสิทธิประโยชน์ในระดับบี 1 ยกเว้นอากร
ขาเข้าเครื่องจักร, ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบ/วัสดุจำเป็นสำหรับส่วนที่ผลิตเพื่อการส่งออกเป็นเวลา 1 ปี, สิทธิและประโยชน์ที่มิใช่ภาษี และยังได้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกจากการเข้าไปตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ แต่เนื่องจากอุตสาหกรรมพลาสติกที่จะได้รับการส่งเสริม จะต้องเป็นเฉพาะอุตสาหกรรมพลาสติกที่ผลิตเป็นชิ้นส่วน หรืออุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้โรงงานที่ผลิตพลาสติกทั่วไป เช่น ถ้วย ถัง กะละมัง ภาชนะต่างๆ ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ในส่วนนี้ ขณะที่สินค้าเหล่านี้เป็นที่ต้องการมากในตลาดประเทศเพื่อนบ้านและมีอัตราการขยายตัวสูง ดังนั้นหากไม่แก้ไขระเบียบบีโอไอ ในส่วนนี้ ก็จะไม่ดึงดูดให้ภาคเอกชนเข้าไปลงทุน
“ในเบื้องต้นคาดว่านิคมอุตฯ พลาสติกที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จ.ตาก จะเกิดขึ้นได้ก่อน เนื่องจากตลาดพม่ามีอัตราการเติบโตสูงมาก โดยในระยะแรกจะมีโรงงานนำร่องประมาณ 10 โรง หากผลประกอบการดีก็จะมีผู้ประกอบ
การเข้าไปลงทุนอีกมาก ในส่วนของ บมจ.พีทีที จีซี ก็มีแนวคิดที่จะเข้าไปลงทุนสร้างคลังกระจายสินค้าเม็ดพลาสติกให้โรงงานในนิคม และประเทศเพื่อนบ้าน” นายอัฒฑวุฒิ กล่าว
ส่วนในภาพรวมอุตสาหกรรมนั้น คาดว่ายอดการผลิตภายในประเทศจะมีประมาณ 7.9 ตัน นำเข้า 1.8 ล้านตัน ซึ่งเม็ดพลาสติกเหล่านี้จะใช้ภายในประเทศ 5.5 ล้านตัน และส่งออกประมาณ 4.2 ล้านตัน จะเป็นการส่งออก โดยในเม็ดพลาสติกที่ใช้ภายในประเทศนี้จะนำไปแปรรูปเพื่อส่งออกประมาณ 1 ล้านตัน โดยในปีนี้หากเศรษฐกิจไทยขยายตัวตามที่คาดหมายไว้ 3.2% ก็จะทำให้อุตสาหกรรมพลาสติกโตขึ้นประมาณ 1% และคาดว่ายอดส่งออกครึ่งหลังของปีจะสูงกว่าในครึ่งปีแรกเล็กน้อย ขณะที่ยอดการส่งออกในตลาดหลักๆ ยังคงทรงตัว โดยในส่วนของจีนแม้เศรษฐกิจไม่ดีนักแต่ก็นำเข้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนประเทศเพื่อนบ้านขยับขึ้นมาในระดับสูง
ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก