“เจ้าสัวเจริญ” บุกภาคตะวันออก กว้านซื้อที่ดิน-โรงแรมกลางเมืองพัทยา นำร่อง “มณเฑียร” เปลี่ยนชื่อใหม่ “ดิ อิมพีเรียล” เร่งรีโนเวตรับ นักท่องเที่ยวทะลักชิงตลาดที่พัก 8 หมื่นล้าน จับตาซื้ออีกโรงแรม 3-4 ดาวรอบทำเลไข่แดง ทุ่มทุนพัฒนาไลฟ์สไตล์มอลล์ “เอเชียทีค ไพรม์” ปักธงถนนเลียบหาดพัทยา-พัทยาสาย 2 รวมร้านอาหารดัง ค่ายซีพีเกาะติดไฮสปีดระยอง
แหล่งข่าวจากกลุ่มบริษัททีซีซีแลนด์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากที่เจ้าสัว เจริญ สิริวัฒนภักดี มีนโยบายขยายการลงทุนธุรกิจในกลุ่มที่ครอบคลุมหลากหลาย สาขา โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาเน้นดำเนินการในเชิงรุกขยายฐานธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เตรียมขยับลงทุนใหญ่ ในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี แหล่งท่องเที่ยว หลักบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก ซึ่งอยู่ใกล้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มี นโยบายจะพัฒนาเพื่อเชื่อมโยงด้านอุตสาหกรรมและการค้ากับเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ประเทศเมียนมา ขณะเดียวกันก็เตรียมลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนนและการลงทุนระบบราง
โดยเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกลุ่มทีซีซีแลนด์ บริษัทพัฒนาที่ดินของครอบครัวตระกูลสิริวัฒนภักดี โดยนางวัลลภา ไตรโสรัส ทายาทของเจ้าสัวเจริญ ได้เริ่มให้ทีมงานเข้าไปบริหารโรงแรมมณเทียร พัทยา ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ บนที่ดิน 15 ไร่ ในโซนพัทยากลางต่อจากเจ้าของเดิม หลังจากได้บรรลุข้อตกลงการซื้อ กิจการเมื่อ 2 ปีก่อน มูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท และให้สิทธิ์เจ้าของเดิมได้บริหาร งานต่อจนถึงเดือนพฤษภาคม 2558
แหล่งข่าวจากโรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงแรมมณเทียร ให้ข้อมูลด้วยว่า คอนเซ็ปต์ ของทีซีซีแลนด์ ต้องการที่ดินหลายผืนย่านเดียวกันเพื่อพัฒนาต่อยอดทำเป็นคอมเพล็กซ์ใหญ่ โดยต้องการซื้อโรงแรม ใกล้เคียงกับโรงแรมมณเทียรด้วย ซึ่งมีโรงแรมระดับ 3 ดาวและ 4 ดาวในละแวกใกล้กัน 3 แห่ง
“แผนธุรกิจหลังจากนี้ ทางกลุ่มทีซีซีแลนด์ จะทยอยปรับปรุงโรงแรมเป็นส่วน ๆ เท่าที่ทราบอาจจะใช้แบรนด์อิมพีเรียลหรือใช้แบรนด์เชนโรงแรมจากต่างประเทศเข้ามาบริหาร”
ยึดพัทยาลุยเอเชียทีคฯ
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สำหรับแผนปรับปรุงโรงแรมมณเฑียรเดิม เนื่องจากเป็นที่ดินอยู่ในทำเลดี ติดถนน 2 ด้านคือ ถนนเลียบหาดพัทยา และถนนพัทยาสาย 2 รวมแล้วมีความลึกนับ 100 เมตร ทำเลก็ถือว่าอยู่ใจกลางเมืองพัทยา ขณะนี้ จึงมีแผนจะนำพื้นที่บางส่วนมาพัฒนาเป็นแหล่งช็อปปิ้ง สไตล์เดียวกับเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ (ASIATIQUE The Riverfront) แหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร และความบันเทิงริมน้ำรูปแบบใหม่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านถนนเจริญกรุง ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 2-3 ปีก่อนและประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง แต่โพซิชันนิ่งของร้านค้าจะสูงกว่าเอเชียทีคฯเจริญกรุง เบื้องต้นอาจใช้ชื่อ “เอเชียทีค ไพร์ม”
“แนวทางจะย้ายห้องประชุมของโรงแรมจากชั้น 1 ไปไว้ด้านบน ส่วนห้องอาหารและสระว่ายน้ำที่อยู่บริเวณชั้น 1 จะยังคงไว้บริการลูกค้าโรงแรม รวมถึงคงสภาพต้นไม้ภายในไว้เพื่อความร่มรื่น”
สำหรับรูปแบบการพัฒนาโครงการเอเชียทีค พัทยา คอนเซ็ปต์เบื้องต้นจะก่อสร้างเป็นอาคาร 1-2 ชั้น หลายหลังต่อเชื่อมกัน มีทั้งพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง และมีอาคารใหญ่สูง 3 ชั้น เพื่อเป็นศูนย์แสดงโชว์สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ
จุดขายจะแตกต่างจากเอเชียทีคฯเจริญกรุง เพราะจะเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์มอลล์ที่เปิดบริการทั้งกลางวันและกลางคืน รูปแบบร้านมีทั้งร้านอาหารบาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ ร้านอาหารท้องถิ่นที่อยู่นอกพัทยา ร้านสินค้าแฟชั่น สินค้าของที่ระลึก
“แนวคิดเราจะให้เป็นที่ช็อปปิ้งและท่องเที่ยว เน้นความร่มรื่น สำหรับรูปแบบโชว์ยังไม่ได้ตกผลึกอาจเป็นโชว์มวยไทย คาลิปโซ่ก็ได้ ต้องหารืออีกครั้ง”
ขนาดโครงการจะมีพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเอเชียทีคฯเจริญกรุง คือ 1.5 หมื่นตารางเมตร เป็นแหล่งกินเที่ยว แฮงเอาต์ ช็อปปิ้งใจกลางเมืองพัทยา ซึ่งกลุ่มผู้เช่าหลักที่เจริญกรุงส่วนหนึ่งสนใจพื้นที่เช่าเพิ่ม
คาดว่าจะลงมือก่อสร้างต้นปี 2559 แล้วเสร็จกลางปี 2560 มั่นใจว่าจะมีผลตอบรับดี เพราะพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกรู้จัก และปี 2560 สถานการณ์จะดีขึ้น
ตุนที่ดินพัทยาสาย 2
นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี กล่าวยืนยันข้อมูลว่า ก่อนหน้าที่กลุ่มทีทีซีแลนด์จะเข้าซื้อกิจการโรงแรมมณเฑียร พัทยา ได้เข้าเทกโอเวอร์โรงแรม แกรนด์ โซเล่ พัทยา จำนวน 200 ยูนิต เลียบชายหาด บนถนนพัทยาสาย 2 ใกล้พื้นที่โรงแรมมณเฑียร และยังได้กว้านซื้อที่ดินกว่า 10-20 ไร่ ตรงข้ามกับโรงแรม แกรนด์ โซเล่ พัทยา ซึ่งถือว่าเป็นที่ดิน เกรด A ตั้งอยู่บนทำเลทองของการลงทุนด้านโรงแรม ที่กำลังรอการพัฒนาโครงการอยู่
ซีพีลุยไฮสปีดเทรน กทม.-ระยอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงทุนธุรกิจอสังหาฯในเมืองพัทยามีผู้ประกอบการ พัฒนาที่ดินรายใหญ่ทั้งจากส่วนกลาง และผู้ประกอบการท้องถิ่นเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการจำนวนมาก โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมหลายทำเลซัพพลายล้น แต่ด้วยศักยภาพของเมืองพัทยาซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งบันเทิงรองรับลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมชายฝั่งทะเลตะวันออก ทำให้เมืองพัทยายังมีศักยภาพสูงในระยะยาว
โครงสร้างพื้นฐานในอนาคตเมืองพัทยา และจังหวัดระยอง จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 193.5 กิโลเมตรพาดผ่าน ซึ่งรัฐบาล ใช้งบฯลงทุนประมาณ 1.5 แสนล้านบาท แนวเส้นทางจะต่อเชื่อมจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีลาดกระบังผ่านฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยา และระยอง
ซึ่งเส้นทางนี้กลุ่มซีพีของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ให้ความสนใจจะลงทุน ร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศ ได้แก่ ซิทิก คอนสตรักชั่น จากเกาะฮ่องกง และไห่หนาน จากจีน ล่าสุดอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดโครงการ ตามแผน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เตรียมนำโครงการนี้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนมิถุนายนนี้
ชี้ห้องพักพัทยาโอเวอร์ซัพพลาย
นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันพัทยามีห้องพักประมาณ 1.3 แสนห้อง อยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ถึง 60% ส่วนการลงทุนใหม่ยังชะลอตัว เนื่องจากสถานการณ์การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว หลังจากตลาดรัสเซียชะลอตัวอย่างหนักจากเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2558 ลดลง 30% แต่ยังมีนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามา ชดเชย
โดยสถานการณ์ในพัทยาขณะนี้ยังไม่มีการลงทุนเพิ่ม แต่เป็นลักษณะทุนใหญ่เข้ามาเทกโอเวอร์ โดยล่าสุดบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อกิจการโรงแรมมณเฑียร ขนาด 300 ห้อง โดยรีแบรนด์ใหม่เป็นชื่อดิ อิมพีเรียล
จากสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวพัทยาที่ชะลอตัว ทำให้สมาคมต้องเร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ถึง 4 อีเวนต์ เช่น งานพัทยาแกรนด์เซล ระหว่าง 30 มิ.ย.-30 ก.ย.2558 เป็นเวลา 3 เดือน แคมเปญนี้จะลดสูงสุดถึง 50% ทั้งห้างสรรพสินค้าและโรงแรมที่พัก คาดว่าจะมีเงินสะพัดประมาณ 3,000 ล้านบาท อีกงานคือเทศกาลพัทยา ซีฟู้ด จะจัดขึ้นต้นเดือน ก.ย. คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ 30 ล้านบาท สำหรับที่เหลืออีก 2 งาน เป็นอีเวนต์ ตามฤดูกาล คือ งานลอยกระทง และงานเคานต์ดาวน์ปีใหม่ โดยกิจกรรมส่งเสริมการตลาดดังกล่าวจะช่วยให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ 60-70%
ภาพรวมการท่องเที่ยวพัทยาปี 2558 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาราว 7 ล้านคน คาดรายได้อยู่ที่ 80,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้ จะลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปี 2557 สำหรับตลาดนักท่องเที่ยว ไทยจะยังคงชะลอตัต่อเนื่องจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่ไม่ขยายตัว
เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของเบียร์ช้างรุกอสังหาฯ ไม่หยุด ล่าสุด ทุ่มทุนรีโนเวตโรงแรมมณเฑียร พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “โรงแรมดิ อิมพีเรียล” หลังซื้อมาแล้ว 2 ปี จับตามีกระแสข่าวจะไล่ซื้อโรงแรมรอบ ๆ อีก 3 แห่ง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ