ธปท.เผยผลสำรวจผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์คาดภาพรวมตลาด อสังหาฯ ฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่วนภาพรวมอสังหาฯ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลล่าสุดเดือน เม.ย.อุปสงค์และอุปทานของคอนโดฯ ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยทุกกลุ่มเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายส่งวัสดุก่อสร้างหดตัว
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมภาวะอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลค่อนข้างทรงตัวในล่าสุดเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ในรอบเดือนนี้อาคารชุดปรับตัวดีขึ้นบ้างทั้งอุปสงค์และอุปทาน และจากการสำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น ส่วนใหญ่เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 58
อุปสงค์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในระดับต่ำในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยอัตราการจองซื้อที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ลดลงเล็กน้อยจาก 21.8% ในเดือนก่อนมาอยู่ที่ 20.9% ในเดือน เม.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในตลาดอาคารชุดปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน สะท้อนจากจำนวนที่อยู่อาศัยได้รับอนุมัติสินเชื่อปล่อยใหม่จากธนาคารพาณิชย์ที่ปรับเพิ่มขึ้น ล่าสุดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มียอดคงค้างสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ทั้งสิ้น 1.72 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 11.6%
โดยจำนวนที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุมัติ สินเชื่อใหม่จากธนาคารพาณิชย์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีทั้งสิ้น 4,026 หน่วย แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด 913 หน่วย ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ 1,302 หน่วย และอาคารชุด 1,811 หน่วย ซึ่งในส่วนของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์หดตัว 20.5% และ19.6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่อาคารชุดกลับขยายตัว 7.0%
สำหรับอุปทานเปิดขายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยเฉพาะอาคารชุดตามแนวรถไฟฟ้าในกลุ่มราคา 1-2 ล้านบาทต่อหน่วย และ 5-10 ล้านบาทต่อหน่วย ขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบในกลุ่มราคา 2-5 ล้านบาทต่อหน่วยตามแผนธุรกิจของผู้ประกอบการ ซึ่งคาดว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาในระยะต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีธนาคาพาณิชย์ทั้งระบบมียอดคงค้างสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการทั้งสิ้น 6.00 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 4.3%
จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและจดทะเบียนเพิ่มในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีทั้งสิ้น 8,308 หน่วย แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด 1,232 หน่วย ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ 2,044 หน่วย และอาคารชุด 5,032 หน่วย ซึ่งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดติดลบ 50.2% แต่ในส่วนของ ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ขยายตัว 133.9% เช่นเดียวกับอาคารชุดขยายตัว 13.4%
ด้านดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม โดยดัชนีราคาบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินอยู่ที่ระดับ 118.7 หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 3.4% ดัชนีราคาทาวน์เฮาส์ พร้อมที่ดินอยู่ที่ระดับ 136.8 หรือขยายตัว 7.7% เช่นเดียวกับราคาอาคารชุดแตะระดับ 137.0 หรือขยายตัว 9.3% ส่วนดัชนีราคาที่ดินอยู่ที่ 147.4 หรือขยายตัว 10.0% ขณะที่ราคาขายส่งวัสดุก่อสร้างอยู่ที่ 121.8 หรือ ลดลง 4.3%
ที่มา : ASTV ผู้จัดการรายวัน