“สมคิด”จี้รฟม.ขยับไทม์ไลน์รถไฟฟ้า 5 สาย เดินหน้าประกวดราคาแล้วเสร็จภายในปีหน้า
ประเดิมสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี 1.1 แสนล้าน เตรียมเข็นเข้า ครม. 8 ธ.ค.นี้ ก่อนร่างทีโออาร์จัดหาผู้รับเหมาแล้วเสร็จส.ค.59 ขณะที่โครงการร่วมพีพีพี ฟาสต์แทร็ก ชมพู- เหลือง-น้ำเงิน ประกวดราคากลางปี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) โดยระบุว่า ได้ติดตามคืบหน้าโครงการคมนาคมทั้งหมด โดยเฉพาะรฟม. ซึ่งพบว่าเป็นที่น่าพอใจ ซึ่ง ได้เร่งรัดกรอบเวลาของโครงการต่างๆ ควรจะเริ่มดำเนินงานในปีหน้า และอยากให้เร่งขั้นตอนการประกวดราคามากที่สุด ให้เกิดแนวโน้ม การลงทุนโครงการของภาครัฐชัดเจน
โครงข่ายรถไฟที่มีความพร้อมมากที่สุด ในปัจจุบัน คือสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม- มีนบุรี วงเงิน 1.1 แสนล้าน คาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการ พิจารณาครม.ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ดี จากการเร่งรัดเปิดประกวดราคา จัดหาผู้รับเหมาโครงการในปีหน้า คาดว่าจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 1-2 เพราะนอกจากการลงทุนส่วนของโครงการรถไฟฟ้าแล้ว ยังเริ่มเห็นความคืบหน้าของโครงการอื่น อาทิ โครงการมอเตอร์เวย์ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างขอ งบเพิ่มเติมเพื่อเดินโครงการให้สำเร็จ จึงเป็น ที่แน่ชัดว่า ทุกโครงการจะสามารถเดินหน้าตามแผนงานได้สำเร็จ
นอกจากนี้ในส่วนของภาครัฐฯ ผู้กำกับดูแล ตอนนี้จะต้องเร่งเข้าผลักดันโครงการต่างๆ เสนอ เข้าครม. และคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP)รวมทั้งประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการพีพีพี และคณะกรรมการวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น
“คิดว่าปีหน้าจะเห็นโครงการทุกส่วนชัดเจนแน่นอนเพราะทุกอย่างเริ่มดำเนินการตาม ขั้นตอนแล้ว และตั้งแต่ปีหน้าถ้าทุกอย่างเดินตามแผนที่กำหนดอย่างต่อเนื่องเม็ดเงินจะลงมาเยอะมาก จะเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะหากวัดเฉพาะวงเงินโครงการรถไฟฟ้ารางคู่ที่จะเริ่มปีหน้า มีเม็ดเงินเหยียบแสนล้านแล้ว ถ้าหากทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ เดินหน้าพร้อมกันเชื่อว่าเม็ดเงินจะลงมาเยอะทีเดียว ทั้งจากเอกชน และต่างประเทศด้วย”
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวว่า นายสมคิดต้องการเร่งรัดโครงการ ก่อสร้าง โดยเฉพาะขั้นตอนการประกวดราคาให้กระชับเร็วขึ้น และต้องการให้เม็ดเงินเข้าสู่ ระบบเศรษฐกิจ สำหรับโครงการที่มีความชัดเจนในขณะนี้พบว่าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม -มีนบุรี เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาสัปดาห์หน้า และคาดว่าหลังจากนั้นจะใช้เวลาจะทำราคากลาง (ทีโออาร์) และเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการจัดหาผู้รับเหมาแล้วเสร็จในเดือน ส.ค. 59
ส่วนโครงการที่อยู่ในแผนเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐแบบเร่งด่วน(พีพีพี ฟาสต์แทร็ก) ซึ่งประกอบไปด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเรื่องการเดินรถ ช่วง บางซื่อ-ท่าพระ-หัวลำโพง-บางแค ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)จะเร่งรัดดำเนินการพิจารณาจากเดิม ที่จะเสนอเข้าครม. ในเดือน มี.ค.59 จะมีการปรับเสนอเข้าครม. ในเดือนก.พ. 59
ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี วงเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท และสายสีเหลือง ลาดพร้าว -สำโรง วงเงิน 5.4 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในกระบวนการพิจารณาจากคณะกรรมการพีพีพี ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 9 เดือน จากนั้นจะเปิดประกาศประกวดราคาภายในปีหน้า
“ความคืบหน้าของโครงการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เชื่อมต่อสายสีม่วง 1 สถานี ช่วงบางซื่อ -เตาปูน คาดว่าจะเสนอครม.ภายในเดือนธ.ค.นี้ หากผ่านแล้วจะตรวจร่างสัญญา และเซ็นสัญญาว่าจ้างได้ ส่วนสายสีม่วง ส่วนต่อขยาย เตาปูน- ราษฎร์บูรณะ เดิมระยะทางประมาณ 20 กม. และ จะมีการขยายอีก 5 กม.ไปถึงวงแหวนอุตสาหกรรม ต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) พิจารณา และหาก ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการอีไอเอ ก็จะเสนอเข้าสู่ครม.ในเดือนเม.ย.ปีหน้า”
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ