ชงครม.วันนี้เคาะแผนด่วนลงทุน 20 โครงการ มูลค่า 1.79 ล้านล้านบาท
“สมคิด”เตรียมเซ็นเอ็มโอซีญี่ปุ่น โหมเส้นทาง รถไฟกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง- สระแก้ว แบ่งพัฒนา 3 ระยะ เริ่มปรับราง 1 เมตร ตั้งบริษัท ร่วมทุนเดินรถ ขยายรางคู่เข้าพุน้ำร้อนเชื่อมทวาย คาดเริ่มคิกออฟต้นปี 59
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนระบบรางที่จะเกิดขึ้นในปี 2559 ว่า ในช่วง ปลายเดือนพ.ย.นี้ จะเห็นความคืบหน้าของโครงการรถไฟทางคู่ที่เป็นความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ในเส้นทางแรกกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ – แหลมฉบัง – สระแก้ว
โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะนำทีมเศรษฐกิจเดินทางไปหารือโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศที่ญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย. นี้ รวมถึงโครงการรถไฟทางคู่ โดยจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOC) 3 ระยะ เพื่อเร่งเดินหน้า โครงการ ประกอบไปด้วย 1.ลงนามเพื่อปรับปรุงรางเดิม 1เมตรให้แข็งแรง 2.ดำเนินการ ลงนามร่วมทุนการเดินรถ และ 3.พัฒนาทางคู่ และก่อสร้างเส้นทางเชื่อมโยงกาญจนบุรี -พุน้ำร้อน
อย่างไรก็ดี โครงการความร่วมมือครั้งนี้ จะก่อให้เกิดการเดินหน้าพัฒนาโครงการอย่างชัดเจนในช่วงต้นปีหน้า ขณะที่โครงการไทยญี่ปุ่น ในเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด คาดว่า จะเสนอครม.เดือนมิ.ย.2559 เช่นเดียวกับ เส้นทางตาก-มุกดาหาร ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา
“ที่แน่ชัดคือโครงการไทย-ญี่ปุ่น จะเห็นความชัดเจนของโครงการช่วงต้นปีหน้า โดยจะเริ่มปรับปรุงรางเดิมที่มีอยู่ให้สอดคล้อง กับการใช้งาน พร้อมทั้งทางญี่ปุ่นก็จะเตรียม การในส่วนของการร่วมทุนเดินรถ ดังนั้นก็จะ เห็นว่าเส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง- สระแก้ว สามารถเกิดได้อย่างรวดเร็ว เพราะ มีระบบรางที่พร้อมอยู่แล้ว ในส่วนของ เส้นทางเชื่อมโยงจากกาญจนบุรี-พุน้ำร้อน ก็เป็นโครงการที่รัฐบาลต้องการผลักดันเร่งด่วน เพราะอยากเชื่อมโยงกับทวายให้เกิดโดยเร็ว”
สำหรับโครงการความร่วมมือรถไฟ ไทย-จีน นั้นไทยจะเป็นเจ้าภาพหารือครั้งที่ 9 ปลายเดือน พ.ย.นี้ จะติดตามความคืบหน้า รวมทั้งจะสรุปกรอบดำเนินการของโครงการทั้งหมดให้ชัดเจน โดยจะมีกำหนดวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ที่ศูนย์ควบคุมการเดินรถ (OCC) บริเวณเชียงรากน้อย และคาดว่า จะนำเสนอครม.อนุมัติโครงการทั้งหมดในเดือน พ.ค.2559
นายชาติชาย กล่าวด้วยว่า การประชุม ครม.ในวันนี้(17 พ.ย.)กระทรวงฯคมนาคม จะรายงานผลการเจรจาร่วมในครั้งที่ 7 ซึ่ง ดำเนินการร่างกรอบความร่วมมือ(Framework Agreement) ของโครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน เพื่อให้ ครม.เห็นชอบ
พร้อมทั้งจะรายงานในส่วนของโครงการการลงทุนขนาดใหญ่(แอ็คชั่นแพลน) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558-2559 จำนวน 20 โครงการ มูลค่า 1.79 ล้านล้านบาท ซึ่งจะยังไม่มีโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงคูคต-ลำลูกกา และช่วงสมุทรปราการ-บางปู เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่จะสามารถเพิ่มเติมเข้าไปใน ภายหลังได้เพื่อให้ ครม. เห็นชอบ
โดยในการรายงานครั้งนี้จะระบุถึงรายละเอียดโครงการทั้งหมด ที่สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) นำไปปรับกรอบเวลาให้สอดคล้องกับปัจจุบันแล้ว ซึ่งหาก ครม.เห็นชอบตามแผนที่วางไว้ก็จะนำมาสู่การขับเคลื่อนโครงการ แต่หากมีการปรับปรุงหยิบยกโครงการที่ ครม.เห็นเป็นเรื่องเร่งด่วน กระทรวงฯ ก็จะนำมาเร่งดำเนินการ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าโครงการระบบราง ที่จะถูก หยิบยกเป็นโครงการเร่งด่วนเกิดขึ้นในปีหน้า แน่ชัดว่า ตามนโยบายรัฐฯต้องการผลักดันโครงการระบบราง
โดยเฉพาะโครงการที่จะเกิดขึ้นภายใต้ การลงทุนรัฐร่วมเอกชน(พีพีพี) อาทิเช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี วงเงิน 56,690 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง วงเงิน 54,644 ล้านบาท รวมทั้ง รถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น วงเงิน 26,006 ล้านบาท และฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย วงเงิน 10,524 ล้านบาท ที่ปัจจุบันได้เปิดประกวดราคาไปแล้ว
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ