ศูนย์ข้อมูลฯ ชี้ อสังหาฯไตรมาสแรกชะลอตัวทั้งยอดเปิด โครงการใหม่และยอดขาย แต่เชื่อทั้งปีโต 5% จากปัจจัยหนุนดอกเบี้ยต่ำ น้ำมันถูก เศรษฐกิจโต ด้านบิ๊กพฤกษาฯแนะเลิกเก็บภาษีที่ดินหวั่นกระทบคนซื้อบ้าน
วานนี้ (23 มี.ค.58) สมาคมสินเชื่อ ที่อยู่อาศัย จัดงานสัมมนาประจำปี 2558 เรื่อง “สถานการณ์ธุรกิจและการเงิน ที่อยู่อาศัยปี 2558” โดยนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ 3 เดือนแรกปี 2558 ชะลอตัวเล็กน้อย ทั้งในแง่ ของยอดเปิดโครงการใหม่ และยอดขาย
โดยพบว่าการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่คาดว่าสิ้นไตรมาส 1 จะมีประมาณ 8,000- 9,000 ยูนิต ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการเปิดตัวถึง 14,000-15,000 ยูนิต และคาดว่าทั้งปีน่าจะมีการโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ทั้งสิ้นประมาณ 65,000 ยูนิต ลดลงประมาณ 10% จากปีที่แล้วที่มีการเปิดตัว 73,000 ยูนิต ส่วนโครงการบ้านจัดสรรหรือบ้านเดี่ยวและทาวน์มีอัตราการเปิดตัวโครงการใหม่ช่วง 3 เดือนแรกประมาณ 9,000 ยูนิต ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการเปิดตัวประมาณ 9,500 ยูนิต ทั้งนี้คาดการณ์ทั้งปีจะมีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเปิดตัวใหม่ 45,000 ยูนิต ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
“ส่วนภาวะการซื้อขายโครงการที่อยู่อาศัยในช่วง 2-3 เดือนแรกไม่ค่อยดีเท่าที่ควร แต่ได้งานมหกรรมบ้านและคอนโด ที่มีแคมเปญส่งเสริมการขาย เข้ามาช่วยพยุงยอดขาย” นายสัมมากล่าว
อย่างไรก็ตามในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นตลาด อาทิ อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังเติบโต ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเติบโตได้ประมาณ 5% นอกจากนี้การที่ภาครัฐเร่งงานก่อสร้าง โครงข่ายคมนาคมเพื่อให้เปิดใช้ได้เร็วขึ้น ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เปิดให้บริการ ปี 2559 และสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่จะเปิดให้ บริการในปี 2560-2561 มีส่วนทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวได้ตามที่คาดการณ์เอาไว้
บิ๊กPSแนะเลิกเก็บภาษีกระทบผู้ซื้อบ้าน
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่าจะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และผู้บริโภค ที่จะซื้อบ้าน เพราะมีผลทางจิตวิทยา ทำให้ต้องคิดก่อนจะซื้อบ้านว่าจะมีภาระภาษีเท่าไร ซึ่งการจัดเก็บภาษีฯควรมีอัตราที่เหมาะสม แต่ถ้าเสียภาษีปีละประมาณ 1,000 บาท น่าจะรับได้ ซึ่งต้องรอรายละเอียดที่ชัดเจนจากกระทรวงการคลัง
“มองว่าไม่เก็บภาษีฯจะดีกว่า เพราะเป็น การส่งเสริมให้คนมีที่อยู่อาศัย ซึ่งถ้าตลาดที่อยู่อาศัยเติบโต ก็จะได้ภาษีทางอ้อมเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว และทำให้มีเงินมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติม” นายทองมากล่าว
ส่วนการเก็บภาษีที่ดิน มองว่าควรจะมีการจัดเก็บที่ดินที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์มากกว่า และควรเก็บภาษีจากผู้ที่ขายที่ดินได้ เพราะถือว่ามีรายได้