รฟม.เร่งเครื่องรถไฟฟ้าสายใหม่ สีน้ำเงินต่อขยาย “บางแค-พุทธมณฑลสาย 4” ระยะทาง 8 กม. วงเงิน 1.7 หมื่นล้าน ชง ครม.บิ๊กตู่เคาะอนุมัติปลายปี’58 เปิดประมูลปีหน้า ตอกเข็มต้นแรกปี’60 บูมพื้นที่พัฒนา ทะลวงรถติดฝั่งธนฯ
นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการด้านกลยุทธ์ และวางแผน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และรักษาการ ผู้ว่าการ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า วันที่ 18 มีนาคม 2558 รฟม.จะจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 1 เพื่อสำรวจและออกแบบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กิโลเมตร เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนและแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ซึ่งปัจจุบันมีการเติบโตของเมืองมาก
เปิดแนวเส้นทาง-ที่ตั้ง 4 สถานี
โดยจุดเริ่มต้นโครงการจะต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (บางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค) ระยะทาง 27 กิโลเมตร ที่ รฟม.กำลังก่อสร้างในขณะนี้ที่สถานีหลักสอง บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ จากนั้นแนวเส้นทางจะวิ่งตรงไปบนเกาะกลางถนนเพชรเกษม ผ่านแยกพุทธมณฑลสาย 2 แยกทวีวัฒนา แยกพุทธมณฑลสาย 3 ไปจนถึงปลายทางจะบรรจบกับบริเวณทางถนนพุทธมณฑลสาย 4
จะมีทั้งหมด 4 สถานี ได้แก่ 1.สถานีพุทธมณฑลสาย 2 ตำแหน่งอยู่เลยแยกถนนพุทธมณฑลสาย 2 มาเล็กน้อย ตรงกับหมู่บ้านเพชรเกษม 2 2.สถานีทวีวัฒนา ตำแหน่งที่ตั้งสถานีจะอยู่บริเวณก่อนถึงคลองทวีวัฒนา 3.สถานีพุทธมณฑลสาย 3 อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ และสำนักงานเขตหนองแขม และ 4.สถานีพุทธมณฑลสาย 4 ตำแหน่งสถานีจะอยู่ก่อนถึงแยกถนนพุทธมณฑลสาย 4
ปักตอม่อกลาง ถ.เพชรเกษม
รองผู้ว่าการ รฟม.กล่าวอีกว่า สำหรับรูปแบบของโครงการ จะออกแบบโครงสร้างเป็นทางยกระดับตลอดเส้นทาง ในลักษณะเป็นทางวิ่งรางคู่บนเสาตอม่อ จะสร้างอยู่บริเวณเกาะกลางถนนเพชรเกษม ซึ่งโครงการนี้เป็นแผนงานเร่งด่วนที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการก่อสร้าง 8 เส้นทางสายใหม่ เพื่อให้โครงข่ายรถไฟฟ้าครอบคลุมถึงชานเมืองมากขึ้น และโครงการรถไฟฟ้าสายนี้จัดอยู่ในส่วนของแผนแม่บทสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้กำหนดไว้เป็นโครงข่ายเพิ่มเติมเปิดให้บริการหลังปี 2562
“ตามแผนงานจะออกแบบรายละเอียดโครงการและจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเสร็จใน 10 เดือน นับจากเดือนมกราคม-ตุลาคมนี้ จากนั้นประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ปี’58 จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีหรือ ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการ และเปิดประมูลได้ในปี’59 เริ่มก่อสร้างได้ในปี’60 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดใช้บริการได้ในปี’64”
เวนคืนจิ๊บ ๆ 240 ล้าน
นายธีรพันธ์กล่าวอีกว่า สำหรับเงินลงทุน เบื้องต้น รฟม.ได้ประเมินไว้ เมื่อปี 2557 อยู่ที่ประมาณ 17,262 ล้านบาท แยกเป็นค่าก่อสร้างและค่าจ้างที่ ปรึกษาโครงการ จำนวน 11,109 ล้านบาท ค่างานระบบและตัวรถไฟฟ้า จำนวน 5,868 ล้านบาท และค่าเวนคืนที่ดินประมาณ 240 ล้านบาท เนื่องจากโครงการนี้ จะสร้างอยู่บนเกาะกลางถนนเพชรเกษมที่มีเขตทางกว้างพอสำหรับรองรับโครงสร้างรถไฟฟ้าได้ ทำให้การเวนคืนที่ดินจะมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณจุดขึ้น-ลง
ของสถานีทั้ง 4 สถานีเป็นหลัก ทั้งนี้ เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ คาดว่าจะช่วยเปิดพื้นที่การพัฒนาในฝั่งธนบุรีมากขึ้น อีกทั้งอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ฝั่งธนบุรี เพื่อเข้ามายังในเมืองหรือบริเวณใกล้เคียงได้รวดเร็วมากขึ้น
เติมโครงข่ายฝั่งธนฯสมบูรณ์
เนื่องจากรถไฟฟ้าสายนี้นอกจากจะต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อขยายที่กำลังก่อสร้าง ซึ่ง รฟม.มีแผนจะเปิดใช้บริการในปี 2560-2561 ยังจะต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่สถานีบางหว้า ที่จะเป็นสถานีร่วมระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและบีทีเอสด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจาก
นี้ กทม.ยังมีแผนจะต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสสายใหม่ จากบางหว้า-ตลิ่งชัน ระยะทาง 7-8 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนประมาณ 11,000-13,000 ล้านบาท มี 6 สถานี ได้แก่ สถานีบางแวก สถานีกระโจมทอง สถานีบางพรม สถานีอินทราวาส สถานีบรมราชชนนี สิ้นสุดที่สถานีตลิ่งชัน
โดยแนวเส้นทางจะมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ จุดเชื่อมต่อกับโรงจอดรถที่บริเวณบางหว้า (เชื่อมกับสายสีน้ำเงินและบีทีเอส) จากนั้นวิ่งไปทางทิศเหนือตามแนวถนนราชพฤกษ์ จะสร้างบนพื้นที่เกาะกลางความกว้าง ผ่านแยกตัดบางแวก ตรงซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ทางแยกตัดถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 จากนั้นจะยกระดับขึ้นไปข้ามทางแยกตัดถนนบรมราชชนนี และยกระดับเพื่อข้ามทางด่วนศรีรัช-วงแหวนตะวันตกที่กำลังก่อสร้างตามแนวรถไฟสายใต้ สิ้นสุดที่ทางลาดลงของสะพานข้ามรถไฟสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) และ รถไฟสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ซึ่ง กทม.คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2561 แล้วเสร็จเปิดใช้บริการในปี 2564
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ