พาซาย่า เกาะตลาดอสังหาฯเพื่อนบ้านอาเซียน เจาะสินค้าตกแต่งบ้าน พร้อมรุกแฟรนไชส์ ยูเออี ดันสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ 30% นางสาวรติยา จันทรเทียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็กซ์ไทล์ แกลลอรี่ จำกัด
ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้าน “พาซาย่า” เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว พม่า กัมพูชา และเวียดนาม โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเติบโต ทั้งบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม รวมถึงลูกค้าโรงแรม เพื่อเสริมตลาดต่างประเทศเดิมทั้ง ออสเตรเลีย มาเลเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง จีน และญี่ปุ่น ทั้งนี้ มองว่า ลาว และกัมพูชา มีศักยภาพมากที่สุดในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับไทย ทำให้เข้าถึงวัฒนธรรม ตลอดจนพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของคน
ท้องถิ่นได้มากกว่าประเทศอื่นๆ ส่วนพม่า เป็นตลาดใหญ่ และมีอัตราการเติบโตของอสังหาฯ ที่น่าสนใจเช่นกัน ส่วนการขยายสาขาในรูปแบบร้านแฟรนไชส์ เบื้องต้นจะเปิดตัวสาขาแฟรนไชส์ใหม่ ที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
“การเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการ และขยายสาขาแฟรนไชส์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทมีสัดส่วนรายได้ จากต่างประเทศ อยู่ที่ 30% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ประมาณ 20%” ด้านตลาดในประเทศ จะไม่เน้นการลงทุนขยายสาขามากนัก เนื่องจากในปัจจุบัน พาซาย่า ได้กระจายจุดจำหน่ายควบคู่กับการเปิดตัวของห้างสรรพสินค้าต่างๆค่อนข้างมาก โดยมีจุดจำหน่ายทั้งสิ้นกว่า 100 แห่ง เอาท์เล็ต 7 แห่ง และร้านแฟลกชิพสโตร์ ที่สยามพารากอน อีก 1 แห่ง แต่จะเน้นขยายตลาดในรูปแบบการ
ขยายกลุ่มสินค้าผ้าผืนไปในตลาดภาคอีสาน เนื่องจากเป็นภูมิภาคทีมีอัตราการเติบโตของ อสังหาฯ มากที่สุด และจากการขยายตัวของสังคมเมืองในภาคนี้ ทำให้ความต้องการผ้าผืน เพื่อทำม่านบังสำหรับที่อยู่อาศัยมีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มยอดขายช่องทางออนไลน์มากขึ้น ผ่านการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ตลอดจนสร้างความน่าสนใจให้ช่องทางออนไลน์ นางสาวรติยา กล่าวว่าปีนี้จะใช้งบการตลาด ไม่ต่ำกว่า 10% ของยอดขายรวม เพื่อจัดทำ โปรโมชั่น อาทิ การมอบส่วนลดการซื้อสินค้าต่างๆ รวมถึงใช้กลยุทธ์การสื่อสารทุกรูปแบบ ตลอดจนการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้สินค้าให้แก่ลูกค้า ณ จุดขาย สำหรับภาพรวมประเภทสินค้าของบริษัทที่มียอดขายสูงสุดของพาซาย่ายังคงมาจากกลุ่มสินค้าเครื่องนอน สัดส่วน 50% ผ้าม่านเย็บ
สำเร็จรูป 25% ผ้าผืน ที่ใช้สำหรับทำผ้าม่าน และผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ อีก 25% ทั้งนี้ ภายในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนให้ยอดขายผ้าผืนเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับกลุ่มเครื่องนอน
ขณะที่ตลาดรวมกลุ่มเครื่องนอนและผ้าผืนตกแต่งบ้านในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตตามจำนวนประชากร ขณะที่ปีที่ผ่านมาตลาดเติบโตไม่มากนัก
“ปีก่อนตลาดไม่โตมากนัก เป็นตัวเลขหลักเดียวเพราะมีผลกระทบจากสถานการณ์โดยรวมภายในประเทศและสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งมีคู่แข่งและผู้ประกอบการ จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดมากขึ้น” นางสาวรติยา กล่าว ปีนี้ธุรกิจปรับตัวดีขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคเริ่มจับจ่ายสินค้า คาดเติบโตได้ราว 10-15%
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ