“ขนส่ง” เร่งสร้าง “ศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าเชียงของ” เสร็จปีนี้ รับถนน R3A ปีหน้าเปิด PPP บริหารโครงการ
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2563 นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธานในงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน ต่อร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย
นายจิรุตม์เปิดเผยว่า โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย เป็นหนึ่งในโครงการตามแผนการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า (Truck Terminal) ของกรม ซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานรองรับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศ บนเส้นทาง R3A เชื่อมต่อการขนส่งระหว่างไทย – สปป.ลาว – สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ – ห้วยทราย)
รวมถึงรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Modal Shift) ระหว่างทางถนนกับทางราง ผ่านแนวรถไฟทางคู่สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของในอนาคตอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ อ.เชียงของ หนึ่งในศูนย์กลางทางด้านโลจิสติกส์ หรือ Logistic Hub ที่มีความสำคัญ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล
ในส่วนของการบริหารจัดการโครงการ กรมได้เปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost ภาครัฐเป็นผู้ลงทุนค่าเวนคืนที่ดิน และค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ส่วนเอกชนเป็นผู้ลงทุนค่าเครื่องมืออุปกรณ์ยกขน และงานระบบบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ และรับผิดชอบในส่วนของการบริหารจัดการและบำรุงรักษา (O&M) ตลอดระยะเวลาร่วมลงทุน 15 ปี
ปัจจุบันคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (บอร์ด PPP) ได้ให้ความเห็นชอบรูปแบบการร่วมลงทุนในโครงการตาม พ.ร.บ.ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ 2556 เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนดำเนินการคัดเลือกเอกชนตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562
การสัมมนาในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่กรมการขนส่งทางบกเล็งเห็นถึงศักยภาพ เพื่อนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะมาใช้ประกอบการจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน ของโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 เพื่อให้การดำเนินการมีความครบถ้วนในทุกมิติ และสอดคล้องกับความสนใจของภาคเอกชนและผู้สนใจร่วมลงทุนอย่างแท้จริง
“ปัจจุบันกรมอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ระยะที่ 1 มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 90 และจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ในส่วนของกระบวนการ PPP คาดการณ์ว่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนได้ในช่วงกลางปี 2564 และลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ในช่วงต้นปี 2565 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ”