รมช.คลังให้นโยบาย ธอส. เพิ่มมาร์เก็ตแชร์ให้กลับมาอยู่ระดับ 30% หลังลดวูบ เหตุราคาบ้านและที่ดินเพิ่มขึ้น ทำให้ส่วนแบ่งแบงก์พาณิชย์ขยับ แม้ปล่อยให้น้อยรายกว่า ด้าน ธอส.เตรียมเปิด 5 โครงการแก้จน-ลดความเหลื่อมล้ำ วงเงินรวมกว่า 2.5 หมื่นล้าน ลุ้นให้ ดอกเบี้ยต่ำกว่า 0.87%
นายวิสุทธิ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยมธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พบว่า ในปี 2557 ธนาคารมีผลการดำเนิน ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ทั้งการให้สินเชื่อใหม่ กำไรสุทธิ และระดับหนี้ที่ไม่ก่อนให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อย่างไรก็ตามพบว่าในช่วงที่ผ่านมา แม้สินเชื่อจะมีการเติบโต แต่ส่วนทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ของธนาคารปรับลดลง จากเฉลี่ยที่เคยอยู่ระดับ 34-35% ลดลงเหลือ 27-28%
“ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของ ธอส.เป็น ลูกค้าขนาดเล็ก วงเงินกู้ไม่เกิน 2.5 ล้านบาท แต่ปัจจุบันราคาบ้านและที่ดินขยับแพงขึ้นมาก แม้ ธอส.จะปล่อยกู้ที่เป็นจำนวนรายเพิ่มมากขึ้นแต่วงเงินไม่มาก ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ได้น้อยราย แต่วงเงินสูงกว่า มาร์เก็ตแชร์ ธอส.จึงปรับลดลง”
ทั้งนี้ได้มอบนโยบายให้ ธอส.ปรับและขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาบ้านและที่ดินที่ปรับขึ้น และต้องเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ให้กลับมาอยู่ในระดับ 30% โดยมองว่า ธอส.น่าจะขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ประกอบการรายเล็ก ที่สร้างอพาร์ทเม้นและแฟลตให้คนเช่า
วงเงินกู้อาจจะไม่เกิน 20 ล้านบาท เพื่อให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงที่อยู่อาศัย เพราะราคาบ้าน คอนโดปัจจุบันสูงมาก ยากที่กลุ่ม ผู้มีรายได้น้อยจะเป็นเจ้าของได้ แม้ว่าปัจจุบันธนาคารจะมีการปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้อยู่แล้ว แต่เป็นสัดส่วนที่น้อย
“วงเงินการให้สินเชื่อต่อบัญชีของ ธอส.ควรจะปรับเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับราคาบ้านและที่ดินที่สูงขึ้น โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลปัจจุบันมีราคา 3-5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนชั้นกลางเหมือนกัน จึงไม่ควรมองข้ามลูกค้ากลุ่มนี้ หาก ธอส.มองแต่การปล่อยสินเชื่อรายย่อยเพียงอย่างเดียว ก็จะทำให้สูญเสียโอกาสทางการตลาดของลูกค้ากลุ่มนี้ ที่นับวันจะมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เตรียมโครงการเพื่อช่วยแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งหมด 5 โครงการวงเงินรวมกว่า 2.55 หมื่นล้านบาท
ธนาคารจะนำ 4 โครงการที่ดำเนินการอยู่แล้วมาปรับใหม่ ประกอบด้วย 1.สินเชื่อของขวัญปีใหม่ ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพียง 0.87% ในปีแรก เดิมตั้งวงเงินไว้ที่ 5 พันล้านบาท จะเพิ่มอีก 3 พันล้านบาท 2.สินเชื่อเพื่อสานฝันคนมีรายได้น้อย จะปล่อยกู้ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท วงเงินรวม 8 พันล้านบาท 3.สินเชื่อบ้าน ธอส.เพิ่มสุข เป็นการปล่อยกู้ให้ลูกค้าเดิมเพื่อปรับปรุง หรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ วงเงินรวม 2.5 พันล้านบาท และ 4.สินเชื่อโครงการบ้านเอื้ออาทร วงเงิน 2 พันล้านบาท
“ส่วนโครงการที่ 5 เป็นโครงการใหม่ คือ สินเชื่อผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำวงเงินรวม 5 พันล้านบาท ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเป็นดอกเบี้ยพิเศษ ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันของธนาคาร ซึ่งปัจจุบันธนาคารให้อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 0.87%”
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ