นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่กรมฯ ทั่วประเทศว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ทุกพื้นที
่ จัดทำแผนงานในระยะยาวเกี่ยวกับบริหารที่ราชพัสดุทั่วประเทศ (มาสเตอร์ แพลน) ที่ต้องจัดเก็บและรวบรวมข้อมูล ว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่ราชพัสดุ เพื่อให้สามารถจัดสรรหรือสร้างเป็นศูนย์รวมหน่วยราชการ รวมถึงการปล่อยพื้นที่ราชพัสดุให้เอกชนเช่าในเชิงพาณิชย์ หรือจัดสรรให้กับเกษตรกรปลูกพืชในการประกอบอาชีพ ถือเป็นนโยบายที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนด้วย คาดจะดำเนินการเสร็จภายในสิ้นปีงบประมาณ 58
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์จะบริหารพื้นที่ราชพัสดุ เน้นบริหารจัดการในส่วนของพื้นที่ที่ต้องปรับปรุง ทั้งพื้นที่ที่เอกชนใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือที่อยู่อาศัย ต้องสำรวจติดตามว่าเป็นวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ หรือเป็นไปตามสัญญาหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ต้องปรับปรุงให้ถูกต้อง เช่น การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ หากเอกชนที่เช่าในเชิงพาณิชย์ หรือเกษตรกรโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้ว ผู้ที่ถือครองรายใหม่จะต้องใช้อัตราการจัดเก็บพื้นที่ราชพัสดุอัตราใหม่ทันที ไม่สามารถใช้สิทธิเดิมได้
ขณะเดียวกัน กรณีของการบุกรุกพื้นที่ราชพัสดุในต่างจังหวัด ทั้ง จ.นครราชสีมา, จ.กาญจนบุรี และจ.ราชบุรี ก็ต้องเรียกเข้ามาทำสัญญาให้ถูกต้องตามระเบียบที่กรมธนารักษ์กำหนดไว้ เพื่อป้องกันปัญหาการบุกรุกพื้นที่ในระยะยาว โดยเฉพาะ จ.ราชบุรี ที่พบว่ามีผู้ประกอบการรีสอร์ทกว่า 172 ราย คิดเป็นพื้นที่กว่า 600,000 ไร่ ที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่ราชพัสดุ รวมทั้งใช้ผิดวัตถุประสงค์ผิดเงื่อนไขตามที่ทำสัญญาไว้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเจรจาให้เข้ามาดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่ดำเนินการตาม ก็จะมีมาตรการที่เข้มข้นเข้าไปดูแล
สำหรับการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ในการประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ 30 ล้านแปลง เพื่อรองรับ พ.ร.บ. ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น ปัจจุบันกรมธนารักษ์ได้สำรวจแล้ว 7-8 ล้านแปลง คาดว่าปี 58 จะสำรวจเพิ่มเติมไปอีก 7-10 ล้านแปลง และสำรวจพื้นที่รายบล็อกทั่วประเทศเสร็จสิ้นครบทุกแปลงภายในกลางปี 59 รวมทั้งเร่งศึกษาพื้นที่ราชพัสดุที่เป็นพื้นที่ใกล้เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อรองรับและสนับสนุนการขยายตัวของนโยบายดังกล่าว และจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกร เพื่อประกอบอาชีพ 6,500 ไร่อีกด้วย