นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทตัดสินใจจะไม่ยื่นประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก พื้นที่ 6,500 ไร่ มูลค่าโครงการ 290,000 ล้านบาท ที่กองทัพเรือจะเปิดให้ยื่นซองในวันที่ 21 มี.ค.นี้ เนื่องจากโครงการใช้เงินลงทุนสูงและการบินไทยมีภารกิจอื่นที่จะต้องดำเนินการอีกมาก จึงไม่อยากจะดิ้นรนมาก หลังจากแผนธุรกิจบิดเบี้ยว
“เราจะมุ่งธูรกิจหลักที่ใกล้ตัวของบินไทยก่อน เช่น การจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ ที่รอบอร์ดสภาพัฒน์พิจารณา แต่โครงการเมืองการบินอู่ตะเภา นับว่าเป็นโครงการที่ดีมาก แต่ด้วยพละกำลังเราเองคงไม่พร้อมที่จะไปคนเดียว ต้องมีพันธมิตรร่วมด้วย ก่อนหน้านี้ได้คุยกับปตท.ซึ่งก็ได้ข้อยุติว่าไม่ยื่นประมูลด้วยกันทั้งคู่”
นายสุเมธกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการบินไทยให้ความสนใจในธุรกิจเกี่ยวเนื่องของโครงการนี้ เช่น คาร์โก้ ครัวการบิน การบริการภาคพื้น ซึ่งสามารถขอเข้าร่วมลงทุนภายหลังได้หลังจากได้ผู้ชนะประมูลโครงการแล้ว
ซึ่งการบริหารตัวสนามบิน ต่อให้การบินไทยเข้าร่วมวันนี้ ก็ไม่ได้เป็นผู้บริหารอยู่แล้ว ก็ตัดสินใจไม่ร่วมประมูลแข่งขันดีกว่า
“โครงการยังไม่เกิดขึ้นได้ในเร็วๆนี้ ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี เนื่องจากต้องรอกองทัพเรือจะต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมารองรับอีก“นายสุเมธกล่าวและว่า
สำหรับโครงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา(MRO) ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) จะเปิดยื่นข้อเสนอแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งที่ผ่านมาการบินไทยได้เซ็นMOUกับแอร์บัสไปแล้วจะร่วมลงทุนประมาณวงเงิน 4,000 ล้านบาท รอเพียงให้แอร์บัสมายื่นข้อเสนอในวันดังกล่าว ถ้าหากแอร์บัสมายืนแสดงว่ายอมรับเงื่อนไขในทีโออาร์ได้ จะเดินหน้าความร่วมมือกันต่อไปในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการจนเห็นรูปธรรมภายใน 1 ปี นับจากวันเซ็นสัญญาภายในเดือนเม.ย.นี้
“โครงการMRO ถ้าไปได้จริง จะเป็นบิ๊กมูฟของการบินไทย “
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเอกชนไทยและต่างชาติมาซื้อซองประมูลโครงการอู่ตะเภา จำนวน 42 ราย แยกเป็นบริษัทไย ได้แก่ บมจ.การบินกรุงเทพ, บมจ.การบินไทย, บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้, บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น, บจ.คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล, บจ.จี.วาย.ที. เอ็นจิเนียริ่ง, บจ.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง (ซี.พี.), บมจ.ช.การช่าง, บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา, บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น, บจ.ไทยแอร์เอเชีย, บจ.ธนโฮลดิ้ง, บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ บจ.บี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้งส์, บจ.แปซิฟิก ภูเก็ต, บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง, บจ.พีทีที เอ็นเนอร์ยี่ โซลูชั่นส์, บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง, บมจ.ยูนีค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์, บจ.เอ็มไพร์ เอเชีย กรุ๊ป, บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจ.Orient Success International
จีนมี 6 บริษัท ได้แก่ บจ.ไชน่า คอมมูนิเคชั่นส์ คอนสตรัคชั่น, บจ.China GeZhouBa Group, บจ.ไชน่า ฮาเบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง, บจ.ไชน่า เรียลเวย์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น, บจ.ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด และ บจ.ไชน่า รีสอร์ซ (โฮลดิ้ง) คอมปะนี
ฝรั่งเศส 2 บริษัท บจ.เอดีพี อินเตอร์เนชั่นแนล, บจ.วินชี แอร์พอร์ท เยอรมนี 2 บริษัท มี บจ.AviAlliance Gmbh กับ บจ.Fraport AG Frankfurt Airport Service Worldwide อินเดีย 1 บริษัท คือ บจ.GMR Group Airport ประเทศญี่ปุ่น 5 บริษัท ได้แก่ บจ.AGP Corporation, บจ.JALUX Inc, Japan Overseas Infrastructure Investment Corporation for Transport and Urban Development (JOIN), บจ.มิตซุย และ Sojitz Corporation มาเลเซีย 1 บริษัท คือ Malaysia Airports Holding Berhad และตุรกี 1 บริษัท คือ TAV TEPE AKFEN INVESTMENT AND CONSTRUCTION AND OPERATION
รูปแบบการลงทุนเป็น PPP net cost ระยะเวลา 50 ปี เหมือนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แยกเป็นก่อสร้าง 3 ปี และบริหารซ่อมบำรุง 47 ปี แบ่งสัดส่วนการลงทุน รัฐจะลงทุนในส่วนของงานโยธา รันเวย์ที่ 2 ประมาณ 10,000 ล้านบาท และหอบังคับการบินแห่งที่ 2 ประมาณ 5,000 ล้านบาท
ส่วนเอกชนลงทุน 5 โครงการ คือ 1.อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 รองรับผู้โดยสารสูงสุด 60 ล้านคนต่อปี 2.ศูนย์การขนส่งภาคพื้นดิน สร้างลานจอดรถและมีสถานีรถไฟความเร็วสูงด้วย โดยผู้ชนะต้องประสานงานกับผู้ชนะรถไฟความร็วสูง 3.ศูนย์ธุรกิจการค้า 4.เขตประกอบการค้าเสรี และ 5.ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ ส่วนการกำหนดพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ทั้งนี้เอกชนจะยื่นข้อเสนอ 3 ซอง มีคุณสมบัติ เทคนิค-แผนธุรกิจ และข้อเสนอส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐ
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ