เซ็นจูรี่ 21 มองลงทุนโครงการภาครัฐ กระตุ้นตลาดอสังหาฯ ปี 58 บริเวณ กทม.-ปริมณฑล โตต่อ 5-10% มูลค่ารวมกว่า 2.5-3 แสนล้านบาท คาดระดับราคาขยับขึ้นเริ่มต้นมากกว่า 2 ล้านบาท
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นประมาณ 5-10% เป็นไปตามทิศทางการ เติบโตของเศรษฐกิจหรือจีดีพี ของประทศ นอกจากนี้ยังมองว่าหากโครงการการลงทุนขนาด ใหญ่ของภาครัฐได้รับอนุมัติและเร่งดำเนินการ มีการเบิก จ่ายงบประมาณจะส่งผลบวก ต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่อง จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะเปิดพื้นที่การลงทุนใหม่ๆ และทำให้เกิดการขยาย การลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย
“แม้ภาคธุรกิจจะเผชิญกับปัจจัยลบ แต่ที่อยู่อาศัยก็ยังเป็นปัจจัยสี่ที่จำเป็น และในแต่ละปีก็จะมีกำลังซื้อเกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ ทั้งที่เกิดจากการซื้อ เป็นบ้านหลังแรก หรือการซื้อเพื่อลงทุน ด้วยเหตุนี้แม้จะมีปัจจัยลบเกิดขึ้น แต่ดีมานด์ยัง มีมาเรื่อยๆ อย่างไรก็ดี ยังมี ปัจจัยบวกต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิด ขึ้นตามมาจากการที่ประเทศ ไทยนับถอยหลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี คาดว่าจะช่วยเป็นแรงสนับสนุนให้มีดีมานด์ใหม่เข้ามาเพิ่มและผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง” นายกิติศักดิ์กล่าว
ในส่วนของราคาที่ดินที่ปรับ ขึ้นตลอด อาจส่งผลให้กำลังซื้อตามไม่ทันราคาที่ดินหรือราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับขึ้น ทั้งนี้ เชื่อเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ตลาดรวมในปีนี้เติบโตในระดับที่ไม่หวือหวานัก ขณะที่ที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดอาจชะลอตัวทั้งด้านการขาย รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งจะต่างจากเมื่อ 2-3 ปีก่อน ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ก็จะมีความเข้มงวดใช้นโยบายการให้เครดิตการปล่อยกู้โครงการที่รัดกุมเพื่อตอบโจทย์ด้านการบริหารสินทรัพย์ให้มีคุณภาพมากขึ้นและเข้มงวดขึ้นกับกลุ่มที่ขอสินเชื่อบ้านหลังที่ 2 เพื่อรักษาคุณภาพของสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้อยู่ในเกณฑ์ดี
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลน่าจะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่กว่า 2.5-3 แสนล้านบาท ทั้ง นี้ เชื่อว่าการลงทุนในปีนี้จะมีผู้เล่นรายใหม่ที่เป็นกลุ่มทุนจากอุตสาหกรรมอื่นมาลงทุน โดยจะเห็นการ เคลื่อนไหวของกลุ่มทุนในอุตสาหกรรมเหล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีการควบรวมหรือซื้อกิจการกัน
ทั้งนี้ หากพิจารณาการทยอย ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา คาดมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประ กอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะ เบียนในตลาดหลักทรัพย์ในบางบริษัทมีมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่า 30% แต่โดยเฉลี่ยทั้ง หมดน่าจะปรับเพิ่มประมาณ 20% สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการ เมืองในปี 2557 และก็มีบางโครง การติดปัญหาอีไอเอจึงมีการยกยอดโครงการมาเปิดในปีนี้
สำหรับในปีนี้คาดว่าจะมี ที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จเข้ามาสู่ตลาด อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิ เนียมที่ได้ลงทุนไปในช่วงปี 2556-2557 และกว่าจะสร้างเสร็จและส่งมอบให้ลูกค้าหรือโอนกรรมสิทธิ์ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างปี 2559-2560 ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าในปีนี้จะเป็นปีเริ่มแห่งการปรับฐานราคาที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่ทั้งระบบที่ขยับฐานเริ่มที่ 2.0-2.5 ล้านบาท เข้ามาแทนที่ตลาด จากเดิมที่เริ่ม ต้นราคา 1.5 ล้านบาท เมื่อเทียบ ทำเลต่อทำเลในการเปิดตัวโครง การในปีนี้เทียบกับ 2-3 ปีก่อน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์