นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย คาดว่า ตลาดอสังหาฯปีนี้ เติบโตไม่มากแค่ 2-5% มีมูลค่ารวมประมาณ 3 แสนล้านบาท โดยตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ทรงตัว ส่วนคอนโดมิเนียมโต 4% ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยราคาที่ดินปรับสูงขึ้น กระทบกำลังซื้อผู้บริโภคตามไม่ทัน ทำให้ตลาดอสังหาฯไม่เติบโต และยังจะเป็นตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ และโครงการขนาดใหญ่ ส่วนเทรนด์การซื้อกิจการและควบรวมจะยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ปีนี้จะเป็นปีแห่งการรับรู้รายได้สูงสุดจากยอดขายคอนโดในปี 2556 มูลค่ากว่า 1.9 แสนล้านบาท จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ภายในปีนี้ และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องของการโอน เพราะราคาขายในปัจจุบันสูงขึ้น 30% เมื่อเทียบกับในช่วง 2 ปีที่แล้ว ส่วนต่างจังหวัดต้องติดตามว่าจะโอนได้หรือไม่ อาทิ เชียงใหม่มีคอนโดรอโอนปีนี้กว่า 6,000 ยูนิต “ตลาดต่างจังหวัดมองว่าปีนี้จะยังคงติดลบต่อ ไม่น้อยกว่า10- 20% เพราะมีปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย ทำให้ผู้ประกอบการยอมยกเลิกโครงการและคืนเงินจอง”
นายอธีป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร คาดว่า อสังหาฯในปีนี้จะขยายตัวประมาณ 5-7% โดยคอนโดจะยังเติบโตมากที่สุด โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ ส่วนบ้านจัดสรร เชื่อว่ายังไปได้ แต่ต้องระมัดระวัง และศึกษาซัพพลายแต่ละทำเลให้ดี
ดังนั้น การพัฒนาโครงการปีนี้ ควรเน้นไปในตลาดที่มีกำลังซื้อชัดเจน คือ ตลาดกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลัก แต่ต้องระมัดระวัง ศึกษาซัพพลายแต่ละทำเลให้ดี
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัทไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ผู้ประกอบการควรระมัดระวังในการลงทุนแม้ว่าจะยังไม่เห็นภาวะฟองสบู่ แต่จากเทรนด์การลงทุนของผู้ประกอบการหันมาเน้นห้องชุดขนาดเล็ก ทำให้จำนวนยูนิตมีมากขึ้นแม้ว่าจะพัฒนาโครงการออกมาในจำนวนเท่าเดิม ขณะที่ดีมานด์มีจำกัด
ส่วนตลาดในเมืองท่องเที่ยวโดยเฉพาะพัทยาปีนี้จะต้องเหนื่อยมากในแง่ของยอดขาย เพราะตลาดหลักต่างชาติคือรัสเซียมีปัญหาเศรษฐกิจค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าอาจมีผู้ซื้อบางส่วนไม่รับโอนห้องชุดเพราะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเท่าตัว และเป็นโอกาสของนักลงทุนในการซื้อห้องชุดราคาถูกจากลูกค้ากลุ่มนี้ ส่วนตลาดภูเก็ตในบางพื้นที่ยังไปได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับราคาและทำเลที่ตั้ง เช่น หาดป่าตอง กะตะ กะรน เป็นต้น
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ต้องติดตามภาวะโลกที่ยังผันผวน มีโอกาสเกิดปัญหาที่จะมากระทบกับเศรษฐกิจไทย เพราะการลงทุนอสังหาฯต้องมีระยะเวลาลงทุน การตัดสินใจต้องมั่นใจ รายเล็กต้องดูผู้ประกอบการรายใหญ่ อาจไม่ไปในทำเลเดียวกัน หรือเลือกทำเลที่มีความมั่นใจและกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสม ทั้งนี้ต้องดูความพร้อมตัวเองในแง่เงินทุนและผู้รับเหมา
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ