บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา นับเป็นจุดขายท่องเที่ยวสำคัญของไทย นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรม วิถีชีวิต วัด วัง ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเกิดใหม่ทยอยเกิดในย่านนี้อย่างต่อเนื่อง หากสนับสนุนพื้นที่นี้ให้ดีก็จะเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างรายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศอย่างมาก
เดชา ตั้งสิน รองประธานกรรมการโรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา หากประเมินจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ขึ้นเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าสาทร ปัจจุบันมีไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นคน/วัน แต่อีก 3-5 ปีข้างหน้าคาดว่าจำนวน นักท่องเที่ยวในย่านนี้น่าจะเพิ่มเป็น 5 เท่าได้
ทั้งนี้ เป็นผลจากโครงการแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในบริเวณนี้เป็นแม่เหล็กดึงดูดสำคัญ ไม่เพียงแต่ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนใจมาล่องเรือเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่แล้วเท่านั้น ยังจะดึงคนไทยที่อดีตอาจยังล่องเรือเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยาน้อยให้เที่ยวมากขึ้น สัดส่วนอาจมีถึง 70% ของนักท่องเที่ยวรวม ส่วนที่เหลือเป็นต่างชาติ
ขณะที่โรงแรม 5 ดาว ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งฝั่งเจริญกรุง เจริญนครเอง ก็พยายามรวมตัวกันเพื่อผลักดันให้การท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาเติบโตไปด้วย ปัจจุบันรวมตัวกันได้ 8 แห่ง ได้แก่ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา โรงแรมแชงกรี-ลา โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมอนันตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา โรงแรมเพนนินซูล่า โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน และโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรการตลาดโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นมา และอยู่ระหว่างชักชวนโรงแรมอื่นในย่านนี้เข้าร่วมเพิ่ม
กลุ่มพันธมิตรนี้จะร่วมกันลงขันทำตลาดประชุม สัมมนา นิทรรศการ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (ไมซ์) ต่างชาติ เช่น ลงขันไปประมูลงานไมซ์ใหญ่ๆ มาจัดในพื้นที่ โดยเลือกใช้โรงแรมที่มีขนาดห้องประชุมสอดคล้องขนาดงาน ส่วนห้องพักก็กระจายกันใช้ในย่านนี้ ซึ่งอดีตที่ผ่านมาตลาดไมซ์นานาชาติมาจัดงานย่านนี้คิดเป็น 10% ของผู้ใช้บริการรวม แต่หลังมีปัญหาการเมืองก็หายไปมาก คาดว่าใช้เวลา 2 ปี จึงจะกลับมาเป็นปกติ
ขณะเดียวกัน มีแผนดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้มาทำกิจกรรมท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้น เช่น อาจรวมตัวกันจัดกิจกรรมเทศกาลอาหารนานาชาติในโรงแรม ดึงดูดคนเข้ามาใช้บริการ มีโปรโมชั่นรับประทานอาหารและเครื่องดื่มโรงแรมในย่านนี้ร่วมกัน จัดทำเว็บไซต์การท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยากรุงเทพฯ เพื่อให้ข้อมูลท่องเที่ยวที่น่าสนใจตลอดแนวแม่น้ำ และยังทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกันด้วย
เดชา กล่าวว่า ตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2561 มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้น มูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท สิ่งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ริมแม่น้ำเจ้าพระยาน่าสนใจมากขึ้น ขณะที่ภาครัฐเองก็มีโครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเพิ่มเติม บริเวณใกล้กับโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ ในปัจจุบัน หากเกิดขึ้นจริงก็จะทำให้การเดินทางมายังย่านนี้สะดวกขึ้น ส่วนโครงการสร้างทางเดินเลียบตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยาของภาครัฐนั้น
โดยส่วนตัวเห็นว่าเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวโดยรวม กรณีที่มีทางเดินตลอดแนวพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ แต่ในบางจุดที่ไม่ได้มีแหล่งท่องเที่ยว ก็อาจไม่จำเป็นต้องสร้างทางเดินก็ได้ เพราะอาจสิ้นเปลืองเกินไป เพราะความต้องการใช้น้อย อีกทั้งอาจมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยได้
ขณะที่การตัดสินใจรื้อสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน กลุ่มโรงแรมในย่านนี้ไม่เห็นด้วยแน่นอน ซึ่งเดือน ต.ค. 2557 ที่ผ่านมา ก็ได้รวมตัวกันทำหนังสือคัดค้านไปยังกระทรวงคมนาคมและกรุงเทพมหานครแล้ว มองว่าการมีสถานีสะพานตากสินไว้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เดินทางมากกว่า เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญกับท่าเรือสาทร
สำหรับภาพรวมอัตราเข้าพักโรงแรมริม แม่น้ำเจ้าพระยา ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 70% ยอดตกช่วงต้นปีที่มีปัญหาการเมืองแต่ดีขึ้นปลายปี ส่วนปีนี้คาดว่าทิศทางอัตราเข้าพักจะดีขึ้น อาจทำได้ถึง 85% ตลาดสำคัญในพื้นที่นี้ ปัจจุบันคือเอเชีย โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี เปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นตลาดยุโรป ซึ่งขณะนี้ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจ และยังกังวลกฎอัยการศึกจึงมาน้อยลง ดังนั้นโรงแรมในย่านนี้ก็ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชีย เช่น ลดราคาอาหารและเครื่องดื่มลงมาเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายมากขึ้น เพิ่มความหลากหลายของเมนูอาหารที่ให้บริการ มีเมนูเอเชียมากขึ้น
สุธีร์ สุภาพร กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์ธนนคร ผู้ให้บริการเรือนำเที่ยวเจ้าพระยา กล่าวว่า ปีนี้ตลาดท่องเที่ยวทางน้ำน่าจะกลับมาคึกคักเพราะบ้านเมืองสงบ จึงได้ขยายบริการเรือนำเที่ยว จากเดิมให้บริการท่าสาทรอย่างเดียวก็มาให้บริการจอดเรือนำเที่ยวที่ตลาดยอดพิมานด้วย โดยลงทุน 25 ล้านบาทต่อเรือนำเที่ยวประเภทล่องเรือไป-กลับชมทิวทัศน์ (ไซต์ซีอิ้ง) แม่น้ำเจ้าพระยา ขนาด 200 ที่นั่ง มาให้บริการที่ตลาดยอดพิมาน คาดเริ่มเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้
นับเป็นสัญญาณดีที่จะได้เห็นการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา กลับมาคืนชีพโชติช่วงเหมือนอดีตอีกครั้ง