คมนาคมเคลียร์แผนลงทุน 20 ปี กางมอเตอร์เวย์ 21 สาย ส่วนทางด่วนเน้นแก้จราจรรอบ กทม.-เป็นฟีดเดอร์เชื่อมวงแหวนรอบ 2 และรอบ 3
จ่อผุดทางด่วนฉลองรัฐ-ลำลูกกา, อุดรรัถยา-รังสิตคลองหก, เชื่อมด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ- ถ.เพชรเกษม ขณะที่เบรกลงทุนทางด่วนอุดรรัถยา-อยุธยา หวั่นแข่งขันกันเองกระทบเอกชนร่วมลงทุน
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ในการพัฒนาโครงข่ายถนนทั่วประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพในการคมนาคมขนส่งและแก้ปัญหาจราจรนั้นจะมีการพัฒนาทั้งรูปแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) และทางพิเศษ (ทางด่วน) ซึ่งกรมทางหลวง (ทล.) ได้จัดทำแผนแม่บทมอเตอร์เวย์ ระยะ 20 ปี (2560-2579) จำนวน 21 เส้นทาง วงเงินลงทุน 2.1 ล้านล้านบาท ขณะที่การศึกษาแผนแม่บททางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีจำนวน 17 โครงการ ซึ่งหลังจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้พิจารณาพบว่ามีแนวเส้นทางที่ซ้ำซ้อนกัน 6 โครงการ
ได้แก่ ทางด่วน สายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี (E5) ระยะทาง 104.7 กม. มูลค่าลงทุน 80,594 ล้านบาท และมอเตอร์เวย์ สายวงแหวนรอบนอกตะวันออกรอบที่ 2-สระบุรี (M62) ระยะทาง 78 กม. ซึ่งเห็นควรพัฒนาทางด่วน ไปสิ้นสุดบริเวณลำลูกกาหรือต่อกับมอเตอร์เวย์ M91 (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันออก รอบที่ 3) ส่วนมอเตอร์เวย์ M62 นั้น ให้ ทล.พิจารณาการใช้มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-ด่านหนองคาย (M6) ระยะทาง 540 กม. ให้เต็มศักยภาพก่อน
ทางด่วนสายอุดรรัถยา-พระนครศรีอยุธยา (E6) ระยะทาง 42 กม. วงเงินลงทุน 31,365 ล้านบาท ซ้ำซ้อนกับมอเตอร์เวย์สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ รอบที่ 2 ด้านตะวันตก-บางปะหัน (M53) ระยะทาง 48 กม.ซึ่งแนวทางด่วนเป็นการเชื่อมระหว่างเมือง จึงให้ กทพ.ยุติโครงการ และให้ ทล.พัฒนามอเตอร์เวย์ โดยพิจารณาศักยภาพของมอเตอร์เวย์ช่วงบางปะอิน-นครสวรรค์ให้เต็มศักยภาพก่อน พัฒนาช่วงวงแหวนฯ ตะวันตก-บางปะหันต่อไป
ทางด่วนสายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก-สมุทรสงคราม (E15) ซ้ำซ้อนกับมอเตอร์เวย์ สายกรุงเทพฯ-ปากท่อ (M82) โดยเบื้องต้นให้พัฒนาทางด่วน E15 จากจุดสิ้นสุดทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ ตะวันตก ไปถึงถนนเพชรเกษมก่อน
นอกจากนี้ ยังเห็นควรให้ กทพ.พัฒนาทางด่วนสายอุดรรัถยา-ปทุมธานี (E10) ระยะแรกสิ้นสุดที่รังสิตคลองหกเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนรังสิต-นครนายก พร้อมทั้งศึกษาการเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน รถประจำทางด่วนพิเศษควบคู่ไปด้วย
สำหรับโครงข่ายมอเตอร์เวย์ทั่วประเทศ ยังต้องนำแผนการพัฒนาถนน 4 เลน และระบบรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงมาพิจารณาประกอบต่อไปด้วย
***แก้ทับซ้อน ปรับเป็นฟีดเดอร์ ลดการแข่งขัน จูงใจเอกชนร่วมลงทุน PPP
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า กรมฯ ศึกษาแผนแม่บทมอเตอร์เวย์ 21 โครงการ ซึ่งแนวรอบๆ กรุงเทพฯ กรณีซ้ำซ้อนกับทางด่วนนั้นหลักการ หากออกนอกเมืองมากๆ พัฒนาเป็นมอเตอร์เวย์จะเหมาะสมกว่า ส่วนที่อยู่ในโซนรอบ กทม.ให้ กทพ.พัฒนาทางด่วน ทั้งนี้ ทล.มีโครงข่ายถนนวงแหวนรอบ 2 และรอบ 3 ซึ่ง กทพ.สามารถพัฒนาทางด่วนเพื่อเชื่อมลักษณะเป็นฟีดเดอร์ระหว่างแนววงแหวนฯ ทั้ง 2 เส้นได้ เป็นต้น
ด้านนายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการ กทพ.กล่าวว่า หลักการเส้นทางต้องไม่ซ้ำซ้อนและไม่แข่งขันกัน เนื่องจากแนวทางการลงทุนโครงการในอนาคตจะเป็นรูปแบบ PPP หรือตั้งกองทุน TFF ขึ้นมาดำเนินการเพื่อลดภาระงบประมาณ โดยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละโครงการ หากศึกษาและรับฟังความเห็นนักลงทุนแล้วได้รับความสนใจ โครงการมีผลตอบแทนดีพอจะใช้รูปแบบ PPP แต่หากเอกชนสนใจไม่มากนักอาจใช้รูปแบบ TFF เป็นต้น
สำหรับ กทพ.มีโครงการทางด่วนที่อยู่ในแผนเร่งด่วน ได้แก่ ทางเชื่อมต่อทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ ไปยังทางด่วนศรีรัชด้านทิศเหนือ (มุ่งหน้าแจ้งวัฒนะ) ระยะทาง 360 เมตร มูลค่า 292 ล้านบาท เปิดใช้เมื่อ 30 ก.ย. 61
2. ทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนฯ ตะวันตก 18.7 กม. วงเงิน 31,244 ล้านบาท ใช้กองทุน TFF ดำเนินการ 3. ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนฯ ตะวันออก 10.5 กม. วงเงิน 17,551 ล้านบาท ใช้เงินจาก TFF ดำเนินการ
4. ทางด่วนกะทู้-ป่าตอง 3.98 กม. วงเงิน 13,917 ล้านบาท ขั้นตอนเสนอ PPP 5. ทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุขและทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ (Missing Link) 2.6 กม. วงเงิน 4,640 ล้านบาท 6. ทางด่วนบูรพาวิถี-ทางเลี่ยงเมืองชลบุรี 7. ทางเชื่อมด่วนบูรพาวิถีเข้าสู่ท่าเรือกรุงเทพ
ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษา EIA คือ 1. สายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี 2. สายอุดรรัถยา-พระนครศรีอยุธยา
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา