พลิกโฉมย่านวิทยุ-เพลินจิต-พระราม 4 มหานครโมเดลฮ่องกงท้าชนสิงคโปร์ กรมที่ดินยันโอนแล้วที่ 23 ไร่ สถานทูตอังกฤษให้กลุ่มเซ็นทรัลลุยมิกซ์ยูส ปิดดีล 2.02 ล้านบาทต่อตร.ว. ชี้แนวโน้มซัพพลายเดือน
ตามคาดหมายที่ กลุ่มเซ็นทรัล คว้าที่ดินสถานทูตอังกฤษเนื้อที่ 23 ไร่ไปครองหลังปิดดีลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561จากการแถลงของกระทรวงต่างประเทศอังกฤษว่า ได้ขายที่ดินของสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยในราคา 420 ล้านปอนด์ (ราว 1.86 หมื่นล้านบาท) ให้กับฮ่องกงแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท จาร์ดีน แมธทีสันฯ เป็นดีลการซื้อที่ดินที่มีราคาสูงที่สุดในไทย และเป็นการขายสินทรัพย์ที่แพงที่สุดของกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษให้กับ เซ็นทรัลกรุ๊ป ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2549 กลุ่มเซ็นทรัล ได้ที่ดิน 9 ไร่ ของสถานทูตอังกฤษ พัฒนาเป็นห้างเซ็นทรัลเอมบาสซีในปัจจุบัน
แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กระทรวงต่างประเทศอังกฤษ โอนกรรมสิทธิ์ ให้กับกลุ่มเซ็นทรัลเรียบร้อยแล้วราคาตารางวาละราว 2.02 ล้านบาทเศษซึ่งสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 23 ไร่ ระหว่างกระทรวงต่างประเทศอังกฤษและกลุ่มเซ็นทรัลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดีมองว่า อนาคตที่ดินสถานทูตจะถูกพัฒนาเป็นอาคารสูงและย่านพาณิชยกรรมขนาดใหญ่(มิกซ์ยูส) ที่มีความหนาแน่นขึ้น สอดคล้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เหมาะสมขณะที่เจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษออกมาระบุว่า อีก 1-2 เดือนข้างหน้าจะย้ายสถานทูตไปอยู่ยังอาคารเอไอเอ สาทร และมีการรื้อย้ายอาคารต่างๆ ออกไป
นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ดเอลลิส (ประเทศไทย) จำกัดหรือ CBRE วิเคราะห์ ว่า อนาคตอันใกล้เพลินจิตจะมีการพัฒนารูปแบบมิกซ์ยูสที่น่าสนใจและถือเป็นโครงการแห่งเดียวในเพลินจิต ของกลุ่มเซ็นทรัลร่วมทุนกับทุนฮ่องกง (ฮ่องกงแลนด์) จากเดิมการพัฒนาตึกสูงไม่ค่อยเกิดขึ้นเนื่องจากที่ดินเหลือให้พัฒนาจำกัด แต่ไม่ทราบว่าจะเริ่มพัฒนาเมื่อใด แต่ที่น่าสนใจคือ โครงการดังกล่าวหากก่อสร้างจะชนกันกับ โครงการวันแบงค็อกมูลค่า 1.2 แสนล้านบาทของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี บนถนนพระราม4 ที่สำคัญโครงการตั้งอยู่ใกล้กันหากสร้างไม่พร้อมกัน น่าจะไม่กระทบอะไร หากเปิดขายพร้อมกัน จะเกิดการแข่งขันอย่างแน่นอนแต่ต่างกันตรงที่ พื้นที่ของกลุ่มเซ็นทรัลเป็นเจ้าของในกรรมสิทธิ์ที่ดิน (ฟรีโฮลด์) ส่วนของเจ้าสัวเจริญเป็นที่การเช่าสิทธิ์ (ลีสโฮลด์)
อย่างไรก็ดี นางสาวอลิวัสสา กล่าวอีกว่า “ประเมินว่าคงไม่เกิดโอเวอร์ซัพพลาย เพราะความต้องการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์อาคารสำนักงานเกรดเอ แหล่งช็อปปิ้ง ยังต้องการสูง ทั้งต่างชาติและนักลงทุนไทย ส่วนที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย ย่านสาทรซึ่งศุภาลัย ได้ที่ดินไปพัฒนามิกซ์ยูส 7 ไร่เศษ ทำเลห่างกันชัดเจน รองรับลูกค้าคนละกลุ่ม มองว่าไม่กระทบต่อการแข่งขันระหว่าง ที่ดินสถานทูตอังกฤษของค่ายเซ็นทรัลกับวันแบงค็อก เจ้าสัวเจริญ”
ด้านนายสุรเชษฐ กองชีพนักวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ทำเลสถานทูตอังกฤษเพลินจิตเซ็นทรัลจะได้รูปแบบการลงทุนโครงการในสไตล์เหมือนฮ่องกงเนื่องจากร่วมทุนกับฮ่องกง ซึ่งอยู่ท้ายถนนวิทยุ ขณะที่ต้นถนนวิทยุจะเป็นพระราม 4 โครงการวันแบงค็อก โดยนำโนว์ฮาว จากประเทศสิงคโปร์มาพัฒนา
แม้จะเป็นมิกซ์ยูสเหมือนกัน แต่รูปแบบต่างกัน วันแบงค็อกนำโนว์ฮาวพัฒนามาจาก สิงคโปร์ประกอบด้วย โรงแรม สำนักงานค้าปลีก ขณะที่กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมทุนกับฮ่องกง รูปแบบการพัฒนาจะเป็นแนวฮ่องกงขายขาด ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม สำนักงาน ค้าปลีกที่จะเชื่อมกับ เซ็นทรัล เอ็มบาสซีและเซ็นทรัลชิดลมเข้าด้วยกัน
สำหรับราคาที่ดินสถานทูตอังกฤษ ซื้อขายตารางวาละ2.02 ล้านบาท เนื่องจากเป็นที่ดินผืนใหญ่ 23 ไร่จึงมีมูลค่าที่สูงที่สุดในประเทศ แต่หากคิดเป็นตารางวา แปลงหลังสวนของค่ายเอสซีแอสเสท ประมูลได้ราคาจะสูงที่สุดในประเทศ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,337 วันที่ 4 – 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ