ที่ดิน 3 จังหวัด “อีอีซี” ราคาพุ่งไม่หยุด “ศรีราชา” นำโด่ง! ปีเดียวทะยานขึ้นกว่าเท่าตัวแตะไร่ละ 100 ล้าน ไล่กวด “พัทยา” ทุน “ไทย-ญี่ปุ่น-จีน” ติดเครื่องลุย ผุดคอนโดฯ-บ้านผู้สูงอายุ
หลังรัฐบาลติดเครื่องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งบก-ราง-น้ำ-อากาศ ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2559 กลุ่มทุนทั้งไทยและต่างชาติแห่เข้าปักธงในพื้นที่
นายสุนทร ธัญญวัฒนกุล ประธานหอการค้า จ.ชลบุรี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้มีนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ อาทิ ญี่ปุ่นและจีน ติดต่อหอการค้าช่วยหาที่ดินและตึกเก่า เพื่อนำมาพัฒนาทำโครงการ ทั้งที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรร, คอนโดมิเนียม, บ้านพักคนชรา, นิคมอุตสาหกรรม และโรงแรมใน จ.ชลบุรี เพื่อรองรับอีอีซี
โดยเฉพาะ “โซนศรีราชา” ถนนสุขุมวิท ที่ติดทะเล ตั้งแต่โรงเรียนดาราสมุทร, ค่ายลูกเสือ, โรงพยาบาลสมิติเวช และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เขตเทศบาล ปัจจุบันได้รับความนิยมสูงมาก ส่งผลให้ราคาที่ดินซื้อขายปี 2560 ขยับขึ้นเป็นไร่ละ 100 ล้านบาท เทียบจากต้นปี 2559 ทำเลเดียวกันราคาอยู่ที่ไร่ละ 40 ล้านบาท ทั้งนี้เอกชนที่ซื้อที่ดินมี อาทิ นายตัน ภาสกรนที ซื้อที่ดินจำนวน 20-30 ไร่ ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนดาราสมุทร เพิ่งโอนไปเมื่อไม่นานมานี้, ผู้แทนนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ค่ายเบียร์ช้าง ติดต่อหาที่ดินและซากโรงแรม เพื่อพัฒนาในอนาคต
นอกจากนี้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง เจ้าของบริษัท รุ่งเจริญ จำกัด ธุรกิจต่อรถพ่วง อดีตสมาชิกวุฒิสมาชิก จ.ชลบุรี (ส.ว.) ซื้อที่ดิน 5-6 ไร่ ตรงข้ามเทศบาลศรีราชา เพื่อพัฒนาเป็นโรงแรม 5 ดาว ส่วนนักลงทุนจีนสนใจที่ดิน 100 ไร่ ร่วมลงทุนกับเอกชนไทย สัดส่วน 49% ต่อ 51% ทั้งในศรีราชาและพัทยา เพื่อพัฒนาเป็นบ้านพักคนชรา
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนยังมีต่อเนื่อง ล่าสุด วัดโรมันคาทอลิกเปิดเซ้งพื้นที่หลายสิบไร่นาน 30 ปี และสามารถต่อสัญญาได้ ซึ่งกลุ่มเบียร์ช้างและซีพีสนใจพัฒนาเป็นห้างสรรพสินค้า
“ที่ดินศรีราชาฝั่งติดทะเลราคาขยับ 100 ล้านบาทต่อไร่ หมดแล้ว เพราะที่ดินหายาก ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินรัฐ ขณะที่ที่ดินเอกชนมีคนติดต่อขอซื้อ 100 ล้านบาทต่อไร่ เจ้าของไม่ขาย เพราะเป็นทุนด้วยกัน”
ด้าน พัทยาไม่มีที่ดินเหลือขาย มีแต่ซากโรงแรมหรือโรงแรมรอขาย ขนาดพื้นที่ 1-2 ไร่ มูลค่า 800-1,000 ล้านบาท หลายอาคาร ซึ่งนักลงทุนจีนสนใจซื้อพัฒนาหรือร่วมลงทุน ส่วนกลุ่มเซ็นทรัลและเทสโก้ โลตัส มีความต้องการจะขยายสาขาเพิ่ม คาดปี 2561 จะเกิดขึ้นเต็มพื้นที่
นางณัฏฐนันท์ คุณาจิระกุล นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ จ.ระยอง สะท้อนว่า ความเคลื่อนไหวราคาที่ดินใน จ.ระยอง จากกระแสอีอีซียังแรงราคาก้าวกระโดดจากราคา 5 ล้านบาทต่อไร่ ช่วงก่อนรัฐบาลประกาศเขตอีอีซีเป็น 20 ล้านบาทต่อไร่ ในปัจจุบันบริเวณทำเลทางหลวงหมายเลข 36 ซึ่งเป็นถนนสายรอง ส่วนถนนสายหลักติดถนนสุขุมวิท ไร่ละ 40 ล้านบาท จากไร่ละ 15 ล้านบาท และหากรู้พิกัดสถานีรถไฟความเร็วสูงชัดเจน ราคาที่ดินจะขยับอีก 20%
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุด กลุ่มอสังหาฯ ส่วนกลาง 2-3 ราย ติดต่อให้สมาคมฯ หาที่ดิน พัฒนานิคมอุตสาหกรรม เนื้อที่ตั้งแต่ 2,000 ไร่ขึ้นไป ทำเลปลวกแดงและบ้านฉาง และนิคมอุตสาหกรรมขนาดเล็ก เนื้อที่ 200-300 ไร่ โดยให้ราคาไร่ละ 7 แสนบาท ขณะที่ราคาที่ดินอยู่ที่ 1.2 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งต่ำกว่านี้เจ้าของไม่ขาย
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด กล่าวว่า ราคาที่ดินพัทยามีความต้องการต่อเนื่อง เร็ว ๆ นี้ ราคาแตะ 1 ล้านบาทต่อตารางวา หรือ ไร่ละ 400 ล้านบาท จากปัจจุบันราคา 5 แสนบาทต่อตารางวา ทำเลใกล้ทะเล
นายวสันต์ วิเคราะห์ว่า การขับเคลื่อนอีอีซีของรัฐบาลจะกระตุ้นการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออก ส่งผลต่ออสังหาริมทรัพย์ คือ ที่อยู่อาศัยรองรับคนทำงานในอีอีซี หากมีการลงทุนให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะทุนญี่ปุ่นที่จะลงทุนนิคมอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคต ซึ่งจะดูดซับซัพพลายที่มีอยู่ได้สูง ปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยรอการขายใน จ.ชลบุรี ประกอบด้วย บ้านเกือบ 600 โครงการ 70,000 หน่วย ขณะนี้เหลือขาย 20,000 หน่วย และคอนโดมิเนียมเกือบ 300 โครงการ 1 แสนหน่วย เหลือขาย 16,000 หน่วย สำหรับนิคมอุตสาหกรรมขอจดทะเบียนใหม่ 12 แห่ง เนื้อที่ 30,000 ไร่ จะมีแรงงานเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนคน ระหว่าง 1-3 ปีนับจากนี้ ขณะที่ ปัจจุบันมีนิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นแล้ว 28 แห่ง พัฒนาบนพื้นที่กว่า 1 แสนไร่ มีคนงานกว่า 5 แสนคน
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,304 วันที่ 12-14 ต.ค. 2560
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ