ธปท.ย้ำลดดอกเบี้ยไม่ช่วยกระตุ้นการลงทุนเอกชน ทำคนออมเงินลดลงและเกิดเก็งกำไรในอสังหาฯ
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน รอง ผู้ว่าการด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ การลดดอกเบี้ยเพื่อลดต้นทุนการเงิน ไม่ได้ช่วยให้ภาคเอกชนอยากลงทุนเพิ่ม เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยไม่ได้เป็นอุปสรรคในการลงทุน
“ระดับดอกเบี้ยในปัจจุบันที่ 2% สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอยู่แล้ว เพียงแต่คนออมเงินคงเหนื่อยหน่อย ซึ่งประเด็นนี้ กนง.ก็กังวลอยู่บ้างว่า ดอกเบี้ยต่ำจะไปสร้างการเก็งกำไรในตลาดหุ้นหรือตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือภาคส่วนอื่นหรือไม่ ยังต้องติดตามดู แต่ที่ผ่านมาปัญหาที่ว่ายังไม่อยู่ในระดับที่น่าห่วงอะไร” นายไพบูลย์ กล่าว
รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยคงเติบโตไปได้อีกไม่มากนัก หากพึ่งแต่บุญเก่าจากพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากหลายส่วนก็ปล่อยปละละเลยไม่มีการพัฒนาทำให้แข่งขันไม่ได้ก็มีให้เห็นแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากต้องการจะเติบโตได้เต็มศักยภาพที่ 4-5% ได้ต่อเนื่อง ก็จำเป็นที่จะต้องปฏิรูปเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเดินต่อไปได้ในระยะยาว ซึ่งการเมืองที่มีเสถียรภาพมีส่วนสำคัญในการกำหนดนโยบายในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ว่าจะหาประโยชน์จากปัจจัยนี้ได้อย่างไรบ้าง
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนแนวทางที่เศรษฐกิจไทยจะผ่านความท้าทายนี้ไปได้ ก็ต้องให้รัฐบาลเร่งขันนอตให้เร่งการลงทุน บริหารจัดการด้านการคลังให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมายที่ควรจะเป็น ซึ่งการเร่งเบิกจ่ายของภาครัฐถือเป็นประเด็นสำคัญที่ กนง.เรียกร้องให้เร่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเม็ดเงินจากภาครัฐแม้น้อยถ้าทำได้ดีจะดึงการลงทุนของภาคเอกชนได้จากความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้มีโอกาสโตสูงกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็มีความท้าทายหรือความเสี่ยงที่ควรเตรียมการรับมือไว้ด้วยเช่นกัน อาทิ การลงทุนของภาครัฐที่อาจจะเบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนรอดูการปฏิบัติของ ภาครัฐว่าจะได้ผลตามที่ประกาศไว้หรือไม่ หากภาครัฐบริหารนโยบายการคลังได้ดี เอกชนก็จะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น