ธุรกิจออโต้พาร์ทแตกไลน์อสังหาฯ ชิมลางโครงการแรก ออฟฟิศเซ็นเตอร์ ย่านเทพารักษ์ หวัง 5 ปีรายได้ 5,000 ล้านบาท กระจายทำเลตุนที่ดินลงทุนเขาใหญ่-นครพนม-นนทบุรี ปี′60ขยายโครงการโรงแรม-หมู่บ้านผู้สูงวัย
นายเอกรัฐ จำปา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็ม พรอพเพอร์ พลัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งแรก วาเลอรี ออฟฟิศ เซ็นเตอร์ มูลค่า 1,170 ล้านบาท ทำเลริมถ.เทพารักษ์ กม.7.5 จ.สมุทรปราการ โดยมีเนื้อที่ 7 ไร่ ออกแบบเป็นอาคารสำนักงานขนาดเล็ก สูง 5 ชั้น ทั้งหมด 17 อาคาร ที่ดิน 107-145 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 750 ตร.ม.ต่ออาคาร แบ่งแปลงเปิดขายราคา 53-67.5 ล้านบาทต่ออาคาร
โดยมองว่าทำเลดังกล่าวมีศักยภาพ เนื่องจากจ.สมุทรปราการมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ 6-15% ต่อปี และพื้นที่โครงการอยู่ติดจุดขึ้น-ลงวงแหวนกาญจนาภิเษก ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีด่าน อยู่ห่างจากโครงการ 3 กม. รวมถึงเอสเอ็มฯ มีแผนขยายโครงการวาเลอรี เฟสสองอีก 12 ไร่ เป็นอาคารสำนักงานรูปแบบเดียวกันอีก 8 อาคาร, คอนโดมิเนียม 160 ยูนิต ราคา 8 แสน – 5 ล้านบาทต่อยูนิต และคอมมูนิตี้ มอลล์ ขนาด 4,000 ตร.ม. เพื่อตอบสนองผู้เช่าในโครงการ
นายเอกรัฐกล่าวว่า บริษัทขนาดเล็กหรือกลุ่มสตาร์ทอัพมีความต้องการพื้นที่สำนักงานและมีเงินลงทุน บริษัทต้องการเจาะกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ที่อาจต้องการพื้นที่สำนักงานบางส่วน และปล่อยเช่าพื้นที่ส่วนที่เหลือเป็นรายได้เสริม ซึ่งออฟฟิศทำเลนี้คาดว่าปล่อยเช่าได้ ราคา 500-650 บาท/ตร.ม. หรือประมาณ 5 แสนบาท/อาคาร/เดือน
ทั้งนี้ บริษัทมีตัวเลือกแพคเกจเสริม โดยลูกค้าสามารถจัดจ้างบริษัทเป็นผู้หาลูกค้าเช่าและบริหารจัดการอาคาร เช่น รีเซพชั่น, แม่บ้าน, รักษาความปลอดภัย คิดค่าบริการ 15% จากค่าเช่า และบริษัทจะการันตีรายได้ให้ 1 ปี หรือ 6 ล้านบาท
สำหรับแผนระยะ 5 ปีของบริษัท ตั้งเป้าทำรายได้ 5,000-6,000 ล้านบาท มีแผนการเปิดโครงการรองรับแล้ว 5-6 โครงการ คือ 1.วาเลอรี ออฟฟิศ เซ็นเตอร์ เฟสสอง มูลค่า 1,600 ล้านบาท 2.คอนโดฯ หมู่บ้านผู้สูงวัย เขาใหญ่ 120 ยูนิต มูลค่า 300 ล้านบาท 3.บ้านพักตากอากาศ เขาใหญ่ เนื้อที่ 27 ไร่ มูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท 4.โรงแรมระดับ 3-4 ดาว จ.นครพนม ขนาด 160 ห้อง มูลค่า 300 ล้านบาท 5.ออฟฟิศ เซ็นเตอร์ จ.นนทบุรี เนื้อที่ 14 ไร่ และ 6.ออฟฟิศ เซ็นเตอร์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน
ส่วนรายละเอียดบริษัท จดทะเบียนเมื่อเดือนพ.ย.58 ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ นายชาติชาย เตชาพลาเลิศ ประธานกรรมการบริษัทฯ ซึ่งเดิมมีธุรกิจโรงงานยาง ฉีดเม็ดพลาสติก รีดเหล็ก สำหรับโรงงานรถยนต์
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ