ด้านความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด “เจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์” ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ขณะนี้ได้เคลียร์พิ้นที่เพื่อพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษได้เกือบหมดแล้ว ตามที่รัฐประกาศใน 3 อำเภอ คือ แม่สอด แม่ระมาด และพบพระ
ส่วนการลงทุน ล่าสุดมีนักลงทุนขอส่งเสริมการลงทุนแล้ว 24 ราย มี 9 รายได้รับการอนุมัติแล้ว ซึ่งสามารถลงทุนได้ทั้งหมด 14 ตำบล อีก 2 รายอยู่ระหว่างก่อสร้าง ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมแปรรูปเม็ดพลาสติก เครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนัง ส่วนการวางผังเมืองพัฒนาพื้นที่ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่
ถามว่า 2 ยักษ์ใหญ่ อย่าง “ซีพี-ไทยเบฟ” เข้ามาลงทุนหรือยัง
“พ่อเมืองตาก” ย้ำว่า มาแน่ ๆ ล่าสุดกำลังศึกษาพื้นที่ แต่ยังไม่ยอมระบุพิกัดที่ชัดเจนจะปักหมุดพื้นที่ไหน เนื่องจากปัจจุบันราคาซื้อขายที่ดินในอ.แม่สอดมีการปรับตัวสูงขึ้นมาก หลังรัฐประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะมีผลต่อการซื้อที่ดินพัฒนาโครงการในอนาคต จึงทำให้ผู้ประกอบการยังไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล
สำหรับอุตสาหกรรมและบริการเป้าหมาย ในพื้นที่ได้แก่ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม, แปรรูปสินค้าเกษตรและประมง เช่น อุตสาหกรรมแป้งข้าวโพด น้ำมันข้าวโพด ,การผลิตอาหารสัตว์, การผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิกส์,ผลิตเครื่องเรือนจากไม้,เครื่องหนัง,อัญมณีและเครื่องประดับ, ชิ้นส่วนประกอบยานยนต์, นิคมหรือเขตอุตสาหกรรม และนิคมอุตสาหกรรมบริการ, กิจการด้านโลจิสติกส์ อาทิ คลังสินค้า ศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า
เมื่อสะพานเมยแห่งที่ 2 เปิดใช้ จะทำให้การเชื่อมโยงภูมิภาคและมูลค่าการค้าชายแดนเพิ่มสูงขึ้นคาดว่าในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 อยู่ที่ 84,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 25% หลังปรับปรุงถนนเมียวดี-กอกะเร็กสร้างเสร็จ