การรถไฟฯ เดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล เร่งผลักดันโครงการลงทุน รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย ระยะทาง 323 กิโลเมตร มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาท เชื่อมโยง การเดินทางขนส่งสู่พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดเชียง ราย คาดเริ่มเปิดประมูลได้ในปลายปี 2560 ให้บริการเดินรถได้ปี 2563 รองรับการเดินทางมากกว่าปีละ 2 ล้านคน ขนส่งสินค้ามากกว่าปีละ 2 ล้านตัน
สืบเนื่องจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพน.) ได้มีนโยบายผลักดันการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศด้วยการสนับสนุนระบบโครงสร้างพื้นฐาน การให้ สิทธิประโยชน์ทางการลงทุน และบริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ เพื่อให้เป็นประตูเชื่อมโยงการค้าการลงทุน กับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้มีการดำเนินนโยบายให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล โดยมีการเร่งผลักดันการลงทุนการขนส่งทางรางเพื่อรองรับการเดินทาง และการขนส่งสินค้าระหว่างพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดการรถไฟฯ ได้เร่งรัดแผนการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย ระยะทาง 323 กิโลเมตร วงเงิน 76,980 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 จังหวัดเชียงราย ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้มีการประมูลหาผู้รับเหมาได้ในปี 2560 และเปิดให้บริการเดินรถได้ภายในปี 2563
“ที่ผ่านมาเส้นทางรถไฟ เด่น ชัย-เชียงราย อยู่ในแผนการพัฒนาของการรถไฟฯ มาตั้งแต่ปี 2503 หรือกว่า 56 ปีที่แล้ว แต่ต้องติดปัญหาทำให้เกิดความล่าช้ามาตลอด อย่างไรก็ตามปัจจุบันการรถไฟฯ มั่นใจว่าโครงการจะเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ และพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างมาก”
สำหรับสถานะของโครงการรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย ปัจจุบัน ได้ผ่านการศึกษาผลกระทบด้าน สิ่งแวดล้อม หรือ EIA (Environmen tal Impact Assessment) ไปแล้ว เมื่อเดือนตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ขั้นตอนต่อไปจะมีการนำเสนอเข้าการพิจารณาของคณะกรรมการ การรถไฟฯ เพื่อเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ จะมีการหารือกับฝ่ายวิศวกร เพื่อแบ่งโครงการก่อสร้างเป็น 3 ช่วง โดยจะสร้างไปพร้อมๆ กัน แทนการสร้างเป็นทางยาวรวดเดียว เพื่อให้เกิดความรวดเร็วยิ่งขึ้น
นายวุฒิชาติ กล่าวด้วยว่า เขตพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดเชียงรายถือเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อการเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการเดินทาง การค้า การลงทุนทางภาคเหนือของไทย ประกอบไปด้วย 21 ตำบล ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงของ อำเภอเชียงแสน และอำเภอแม่สาย และยังมีชายแดนติดกับประเทศ เมียนมา สปป.ลาว รวมทั้งเชื่อมต่อไปถึงมณฑลยูนนาน ประเทศจีนได้อีกด้วย ซึ่งการรถไฟฯ ประเมินว่า การก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย จะช่วยเพิ่มโอกาสการพัฒนาทางเศรษฐกิจในพื้นที่ ได้เป็นอย่างดี โดยประเมินว่าภายในปี 2565 จะมีผู้โดยสารมากถึง 2,004,215 คนต่อปี และมีปริมาณขนส่งสินค้าได้สูงถึง 2,095,930 ตันต่อปี
สำหรับแนวเส้นทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย มีระยะทาง 323 กิโลเมตร 26 สถานี ผ่านพื้นที่ 59 ตำบล 17 อำเภอ ของ 3 จังหวัดแพร่-พะเยา-เชียงราย มีอุโมงค์ 3 แห่ง อุโมงค์แรก อ.สอง จ. แพร่ ยาว 6.4 กิโลเมตร ซึ่ง ยาวที่สุดในประเทศ อุโมงค์ที่ สอง อ.เมืองพะเยา 2.8 กิโล เมตร และอุโมงค์สุดท้าย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย 3.6 กิโลเมตร ตลอดระยะทางมีระบบป้องกันอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟ เช่น สะพานข้ามทางยกระดับ มีมูลค่าโครงการลงทุนรวมประมาณ 76,980 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้างทางวิศวกรรม (รวมค่าจ้างที่ปรึกษา) 73,172 ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 7,292 แปลง จำนวนพื้นที่ 9,661 ไร่ มูลค่า 3,808 ล้านบาท