All News · April 24, 2024

เลดี้ CEO “ธัญทิพ เจียรวนนท์” ฉีกดีไซน์คอนโดหรูแนวใหม่

สัมภาษณ์พิเศษ

แม้อากาศจะร้อนสุดขีด แต่เมื่อได้พูดคุยกับเธอคนนี้แล้ว รู้สึกเย็นขึ้นมาทันที มิใช่เพราะเธอเป็นลูกหลานคนรวย แต่ความใส ความสด และความคิดของเธอเฉียบจริง

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้รับเกียรติสัมภาษณ์พิเศษเซเลบสาววัย 32 ปี “ธัญญ่า” หรือ “ธัญทิพ เจียรวนนท์” CEO บริษัท อีเดน เอสเตท จำกัด ที่กำลังบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับ Ultra-Luxury Low-Density รายแรกของเมืองไทย

เจน 3 ตระกูล ซี.พี.

ธัญญ่าเป็นบุตรสาวคนเดียวของ “สุภกิต-มาริษา เจียรวนนท์” ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของ “ธนินท์ เจียรวนนท์” เจ้าสัวเครือเจริญโภคภัณฑ์ ดีกรีปริญญาตรี สาขาการออกแบบสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ศิลปะ จาก The University of Pennsylvania โดยใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกามาตั้งแต่วัยรุ่น คือไปเรียนต่อตั้งแต่อายุ 15 ปี

มีประสบการณ์การทำงานจาก Ogilvy & Mathers New York และ Sotheby’s and Hong Kong Land ภายใต้กลุ่ม Jardine Group ดูแลงาน Asset Management ที่ฮ่องกงแลนด์ เพราะพื้นฐานเธอชอบงานศิลปะและออกแบบ ดังนั้น อสังหาริมทรัพย์จึงเป็นธุรกิจที่เธอสนใจ

เมื่อกลับมาไทย ได้เข้าทำงาน เรียนรู้งานอสังหาริมทรัพย์ในบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ที่มี คุณบี-ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ (เจียรวนนท์) ลูกสาวคนเล็กของคุณธนินท์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณอา (อาโกว) ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (DTGO) และประธาน MQDC ก่อนจะออกมาลุยธุรกิจของตัวเอง

มุมส่วนตัว เธอและครอบครัวได้ก่อตั้ง The Build Foundation องค์กรที่ไม่หวังกำไร เมื่อสิบกว่าปีก่อน เพื่อสร้างสาธารณประโยชน์ด้านการศึกษา เธอยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็น Top 100 Influencer ใน Generation T รุ่นแรกของ Hong Kong Tatler อีกด้วย

ธัญญ่าบอกว่า เราเป็นบริษัทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างคอนโดฯแถวสุขุมวิท คอนโดฯเเรกชื่อ THE STRAND ทองหล่อ ทำเลต้นซอย ติดสถานีรถไฟฟ้า คอนโดฯที่ 2 ตอนนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างที่เอกมัย ชื่อ “อีเดน เอกมัย”

ตอนอยู่ฮ่องกงก็ทำงานในส่วน Commercial Real Estate ตอนเเรกธัญญ่าคิดจะเริ่มทำอสังหาฯที่ฮ่องกง แต่ดูยากเกินไป ครอบครัวจึงแนะว่า ช่วงพักร้อนลองกลับมาเรียนรู้งานอสังหาฯที่เมืองไทยก่อนดีมั้ย เธอจึงแพ็กกระเป๋ามากรุงเทพฯ คิดจะอยู่แค่ 2 เดือน สุดท้ายก็ตกหลุมรักเมืองไทย ตัดสินใจประเดิมธุรกิจที่นี่ในวัยเพียง 25 ปี

“ธัญญ่าย้ายที่อยู่บ่อยมากตั้งแต่เด็ก มาโตที่ฮ่องกง แต่ครอบครัวอยู่เมืองไทยกับเกาหลี (คุณแม่คนเกาหลี) แล้วมาเรียนที่อเมริกา ดังนั้น บ้านจะสำคัญมากสำหรับเรา”

“ส่วนตัวนอกจากจะชอบอยู่บ้านแล้ว ยังชอบแต่งห้อง แต่งบ้าน มาตั้งแต่เด็ก ๆ ให้รู้สึกเหมือนว่าเป็นบ้านเราเอง เพราะย้ายไปมาบ่อย ไอเดียจึงติดตัวมาจนโต ทำยังไงให้บรรยากาศในบ้านรู้สึกน่าอยู่ อบอุ่น และสบายสำหรับคนอยู่อาศัย เลยกลายเป็นแรงบันดาลใจหลักที่ทำให้เลือกทำธุรกิจเรียลเอสเตต”

“ตอนเด็กก็ไม่รู้ว่าโตมาจะทำธุรกิจนี้ นึกแต่ว่า ชอบออกแบบ อยากเป็นสถาปนิก เป็นดีไซเนอร์ จึงมุ่งเรียนด้านนี้ แต่สุดท้ายประสบการณ์จากงานที่ฮ่องกง ทำให้เรารู้ว่าคนที่คิดไอเดียว่าบ้านควรเป็นยังไง ไม่ได้มาจากสถาปนิกอย่างเดียว แต่มาจากดีเวลอปเปอร์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ปั้นคอนเซ็ปต์โครงการแล้วให้โจทย์กับดีไซเนอร์ นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ธัญญ่ามาทางนี้”

เป็นซีอีโอหญิงอายุ 25 ปี

เธอเล่าว่า ตอนกลับมาไทยแรก ๆ ยังไม่มีที่ดินทำโครงการ จึงนั่ง BTS ดูทำเลไปเรื่อย ๆ จากอ่อนนุช สุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ จนถึงอโศก พร้อมพงษ์ เพราะยังไม่คุ้นเคยกับกรุงเทพฯ

“มาวันนี้เข้าใจมากขึ้นแล้ว แต่ละโลเกชั่นมีเอกลักษณ์อย่างไร ทำให้เรามองตลาดได้ชัดขึ้น ประเทศไทยขาดคอนโดฯแบบไหน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่คิดคอนเซ็ปต์ THE STRAND Thonglor ขึ้นมา”

จนมาเจอที่ทำเลทอง ต้นซอยทองหล่อ สุขุมวิท 55 ความยากคือต้องรวมที่ดินจากเจ้าของเก่าถึง 24 โฉนด ให้กลายเป็นหนึ่งเดียว ใช้เวลาอยู่เกือบ 8 เดือน เป็นประสบการณ์ล้ำค่าของคนวัย 25 ที่ได้เรียนรู้ของจริง

“รู้ว่าจะดีลยังไง ได้เรียนรู้แต่ละเจ้าของที่ดินเก่า รู้ความคิดพวกเขา ถือเป็นดีลที่ยาก เพราะขั้นตอนรวม 24 โฉนด ให้เป็นหนึ่งเดียวถือเป็นประสบการณ์ที่ดี ทำให้เราได้ผ่านอะไรมาเยอะ”

อย่างโครงการแรกเมื่อเริ่มโอนห้องก็เจอโควิดพอดี รู้สึกกังวล แม้คุณอา (ทิพพาภรณ์) จะบอกว่า ช่วงโอนเป็นช่วงที่ยากลำบาก แต่นึกไม่ออกว่าจะยากขนาดไหน ปรากฏว่าโควิดทำให้การโอนช้าลงไปอีก หลายคนหลายส่วนติดปัญหาหมด เราก็พยายาม ก็เข้าใจ เขามีธุรกิจ เราก็มีธุรกิจ เห็นใจลูกค้า สุดท้ายการโอนห้องค่อนข้างสำเร็จแม้จะผ่านช่วงเวลาที่ลำบาก

แต่ยอดขายไม่ได้เร็วเท่ากับที่คิดไว้ เราพยายามใจเย็น คิดและเเพลนระยะยาวสำหรับโครงการนี้ จะบริหารเรื่องเงินยังไง Cash Flow ทำให้เราผ่านวิกฤตได้ เป็นการเรียนรู้จากครอบครัว เพราะครอบครัวบอกตลอด การบริหารจัดการเรื่องการเงินเป็นปัจจัยหลัก ธุรกิจจะรอดหรือไม่รอด ยิ่งช่วงวิกฤตต้องดูแลส่วนนี้ก่อน ดูว่าเราบริหารค่าใช้จ่ายได้หรือไม่

“ก็เครียด เป็นครั้งแรกที่ต้องดูลึกเรื่องการบริหารเงิน แต่ธัญญ่าคิดว่าทุกคนก็น่าจะเครียด เพราะเราไปบ่นกับคนอื่น คนอื่นก็บ่นกลับมา ทุกคนลำบากพอ ๆ กัน (หัวเราะ) คือต้องดูแลลูกน้อง ดูแลบริษัท มียูนิตที่ยังขายไม่หมด ต้องตั้งใจ ต้องพยายาม ทำให้ดีที่สุด”

กำลังใจจากอากง คุณพ่อ คุณอา

ธัญญ่าบอกอีกว่า คนเดียวที่รู้ว่าจะเริ่มทำอสังหาฯคือ คุณอา (ทิพพาภรณ์) เพราะเราไม่ค่อยอยากคุยเรื่องงานกับครอบครัว แต่ละคนมีไอเดียกันเยอะ ตามมาด้วยความคาดหวัง สรุปคุณบีเป็นคนที่ธัญญ่าปรึกษามากสุด

“ช่วงโควิด ในครอบครัวก็เจอปัญหาเหมือนกัน สิ่งที่ช่วยคือให้กำลังใจกัน ตอนนั้นธัญญ่าพยายามหาเงิน เพราะอยากพัฒนาโครงการ แต่ THE STRAND ยังขายไม่ได้ตามเป้า ธัญญ่าก็มีปรึกษาคุณพ่อบ้าง”

“ส่วนคุณปู่ (คุณธนินท์) เป็นคนที่น่ารัก ชอบเล่าเรื่องประสบการณ์ของบริษัท ทำให้เรารู้ว่า กว่าจะถึงวันนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง มีวิธีการคิด-แก้ปัญหาอย่างไร แต่ก็ไม่สามารถนำมาปรับใช้ได้ตรง ๆ เพราะท่านคุยเรื่องขายไข่ แต่เราขายคอนโดฯ แต่ก็ทำให้เรารู้สึกสบายใจ”

“ท่านบอกว่าจริง ๆ แล้ว ถ้าเราไม่ผ่านปัญหามาเลย ก็คือเราไม่ได้โต เราไม่เก่งพอ แม้ทุกอย่างราบรื่น ถ้าเราแค่สนุกและชิล นั่นหมายถึงว่าเราไม่ได้ผลักตัวเองให้ไปข้างหน้า ไม่ได้หาโอกาสในวิกฤต”

“ท่านมีแลนด์แบงก์เยอะมาก แต่ทำเลพัฒนาไม่ค่อยได้ น่าเสียดาย ธัญญ่าบ่นตลอด ถ้าได้เก็บที่ในเมืองก็ดี แต่ก็เป็นคนละธุรกิจ ท่านไม่ได้มองธุรกิจด้านนี้”

MQDC ก็ไม่มีแลนด์แบงก์ จุดเริ่มต้นเหมือนกัน ประเด็นนี้คือความยากของธุรกิจอสังหาฯ ทำเลสำคัญที่สุด ราคาที่ดินสำคัญรองลงมา

เปิดมุมคิดคอนโดฯแนวใหม่

เธอย้ำว่า ธุรกิจสร้างบ้านต้องใส่ใจในสิ่งที่เราทำ ยิ่งเป็นอัลตราลักเซอรี่ เงินของคนที่มาซื้อหรือลงทุนนั้นเยอะมาก ๆ เราต้องใส่ใจ ออกแบบห้องให้ใช้ได้จริงพร้อมคุณภาพ

ถ้าเราขายของแพง คนซื้อต้องคุ้มค่า ธัญญ่าอยากให้คนที่มาซื้อเก็บเป็นของที่ส่งต่อให้ลูกหลานได้ สิ่งที่เราสร้างอยู่ในกรุงเทพฯ ทำเลต้องดี เราพยายามฉีกแนว คิดละเอียดในมุมมองใหม่ทุกส่วน จึงทำคอนโดฯโลว์ไรส์

จุดเด่นคืออยู่ใจกลางเอกมัยซอย 12 มีจำนวนเพียง 17 ยูนิต ที่จอดรถมาตรฐาน 300% ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกตลาดบนสุด บนที่ดินกว่า 1 ไร่ สูง 7 ชั้น มูลค่า 2,000 ล้านบาท

เฉลี่ยต่อตารางเมตร 350,000 บาท มีห้องดูเพล็กซ์ ขนาด 350-391 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 130 ล้านบาท ห้องซิมเพล็กซ์ 219-224 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 70 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในอีก 3 ปีข้างหน้า เน้นลูกค้าต่างชาติ 49% คนไทย 51%

เพราะทำเลเอกมัยสะดวกในการใช้ชีวิตครบวงจร มีสถานศึกษา โรงพยาบาล รถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ-เอกมัย และห้างระดับเวิลด์คลาส

“ทุกครั้งที่ได้พบปะเครือญาติ คุณปู่ก็มักจะถามธัญญ่าว่า วันนี้ขายได้กี่ห้อง…” เธอเล่าติดตลก ขณะที่นัยน์ตาบอกถึงความมุ่งมั่น

“ถ้าเราตั้งใจทำสิ่งที่เราอยากทำ แล้วทำให้ดี วันหนึ่งคนเขาก็จะเห็น เรามีความฝัน เราก็อยากทำให้ดีที่สุดที่เราทำได้”

อ่านข่าวต้นฉบับ: เลดี้ CEO “ธัญทิพ เจียรวนนท์” ฉีกดีไซน์คอนโดหรูแนวใหม่



ที่มา : Prachachat/d-life
อ่านเพิ่มเติมได้ที่…เลดี้ CEO “ธัญทิพ เจียรวนนท์” ฉีกดีไซน์คอนโดหรูแนวใหม่

กบข. เพิ่มฟีเจอร์แอปใหม่ “My Account” ให้สมาชิกเช็กข้อมูลสะดวกง่ายขึ้น
นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น

Home