เศรษฐา ทวีสิน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 เดินหน้าโครงการ “1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์” การลงทะเบียนจะต้องเป็นระบบที่ง่าย ประชาชนเข้าถึงได้อย่างเป็นธรรม
วันที่ 22 เมษายน 2567 เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567
โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
พร้อมด้วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าร่วมประชุม
นายเศรษฐา ทวีสิน มอบนโยบายต่อที่ประชุมว่า นโยบายในแต่ละสาขา ควรเตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและคน ในช่วงของต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ครอบคลุมถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้น ต้องการฝึกฝนหรือเรียนรู้เพื่อสร้างอาชีพต่อไปในอนาคต พร้อมมอบนโยบายในการทำงาน จำนวน 3 ข้อ ดังนี้
- ขอให้ทำแผนการ “รับ Register” เพื่อคัด 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ให้เร็วที่สุด เพื่อเราจะได้แยกความรู้ความสามารถตามความชำนาญและสาขาอาชีพ และนำคนไปเข้าหลักสูตรฝึกอบรม ซึ่งควรจะมีทั้ง Online และ Onsite ตามความสามารถ รวมถึงต้องจัด Class และวิธีการคัดเลือกผู้เข้าเรียนให้ทั่วถึงและยุติธรรม
- ขอให้เตรียม “เนื้อหา Content” ที่จะใช้ในการ Upskill-Reskill ให้ตรงกับความชำนาญ และเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ First Impression ในการเรียนรู้สำคัญมาก ไม่อยากเห็นประชาชนสมัครเข้ามาแล้วพบว่าไม่ได้มีเนื้อหาอะไรที่จะสอน ไม่อยากเห็นภาพคนเข้าโครงการ แต่เนื้อหาไม่น่าสนใจ เกิดเป็น Bad Experience และทำให้คน Drop off ไปได้ และที่สำคัญ วิธีการเรียนการสอน ต้องเข้าใจง่าย มีมาตรฐานที่ดี
- การจัด Event ต้องขอให้เป็นการ “ต่อยอด” จากที่ภาคอุตสาหกรรมทำอยู่แล้ว รัฐควรพิจารณาในการต่อยอด Event ที่ทำแล้วจะช่วยขยายผลได้มาก ต่อยอดจากภาคอุตสาหกรรมให้เข้าถึงคนได้มากขึ้น และต้องให้แน่ใจว่าการต่อยอดนั้นเป็นประโยชน์มากขึ้น มีความคุ้มค่าในการลงทุน ฉะนั้น ขอให้มีตัวชี้วัดชัดเจนว่า การมีรัฐลงทุน จะช่วยขยายผลได้อย่างไร
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม นายเศรษฐา ทวีสิน ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เศรษฐา ทวีสิน-Srettha Thavisin ว่า Soft Power คือ หนึ่งในโครงการเรือธงของรัฐบาล สร้างความหวังและแรงบันดาลใจให้คนไทย ขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโต
การประชุมคณะกรรมการ Soft Power ชุดใหญ่วันนี้ การจัดกิจกรรม รวมถึงการขับเคลื่อน Soft Power ของแต่ละอุตสาหกรรมก้าวหน้าไปเยอะครับ ตัวนโยบายในแต่ละสาขา จะเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรม และคนในช่วงของต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ครอบคลุมถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้นและต้องการฝึกฝนหรือเรียนรู้เพื่อสร้างอาชีพต่อไปในอนาคต
งานที่จะเดินหน้าต่อนั้น ในเรื่อง 1 ครอบครัว 1 Soft Power การลงทะเบียนจะต้องเป็นระบบที่ง่าย ประชาชนเข้าถึงได้อย่างเป็นธรรม โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจ และเข้าใจง่าย ส่งเสริมให้เกิดการ Upskill และ Reskill ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน และการวางรากฐานการพัฒนาประเทศ ในส่วนของการจัด Event รัฐบาลจะเน้นการต่อยอดจากภาคอุตสาหกรรมที่ทำอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดผลคุ้มค่ากับการลงทุนครับ
อีกเรื่องที่น่าสนใจ คือ การจัดงาน SPLASH หรือการประชุมนานาชาติด้าน Soft Power ในธีม Culture as a Future ซึ่งจะเป็นการสื่อสารนโยบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยที่มีทักษะนั้น จะเป็นโครงการเปิดกว้างให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ โดยยึดประโยชน์ที่ประชาชนร่วมงานเป็นสำคัญ ใครสนใจเข้ารับการอบรม หรือเข้าร่วมกิจกรรมใน Soft Power ด้านไหน ติดตามรับฟังข่าว และเตรียมตัวให้พร้อมครับ
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แถลงภายหลังการประชุมว่า โครงการ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ จะมีการลงทะเบียนในต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งจะมีทั้งออนไลน์และผ่านกองทุนหมู่บ้าน อยากให้ช่วยติดตามเพจ THACCA (Thailand Creative Content Agency) เพื่อรอรับรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการสมัคร
หลังจากประชุม เราได้ข้อสรุปในครั้งนี้ รวมถึงเรื่องงบประมาณ ซึ่งในวันนี้เป็นการนำผลการประชุมจากคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มานำเรียนต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ รวมถึงคณะรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ที่เป็นคณะกรรมการร่วม
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ที่ประชุมรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เพิ่มเติม และรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณคณะกรรมการทุกท่าน ที่ได้ดำเนินโครงการซอฟต์พาวเวอร์ในด้านต่าง ๆ เกิดผลดีต่อประเทศไทย ทำให้ต่างชาติรู้จักความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการการจัดประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ตามที่ฝ่ายเลขานุการเสนอ และเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณการจัดประชุม โดยมอบหมายให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบฯกลางต่อไป
รวมทั้งเห็นชอบในหลักการข้อเสนอโครงการของอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์เป้าหมายทั้ง 11 สาขา ปี 2567 พร้อมทั้งเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณโครงการของอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์เป้าหมายทั้ง 11 สาขา ปี 2567 โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบฯกลางต่อไป
นายกรัฐมนตรีกำชับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณารายละเอียดของโครงการ ลดความซ้ำซ้อนการดำเนินงาน พร้อมกับเน้นย้ำเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณต้องถูกต้องตามระเบียบราชการ ตรงตามวัตถุประสงค์ ให้คำนึงถึงความคุ้มค่าและประโยชน์ที่ได้รับเป็นสำคัญ โดยให้เรียงลำดับความสำคัญของโครงการในการพิจารณางบประมาณ
ขอให้คณะกรรมการและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันขับเคลื่อน ผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เกิดประโยชน์สูงสุด หากติดขัดปัญหาตรงไหนขอให้รายงานมาให้ทราบ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหา ช่วยให้เกิดผลสำเร็จตามระยะเวลาที่กำหนดไว้” นายคารมกล่าว
แพทองธารเดินหน้า “1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์” ลงทะเบียนต้น มิ.ย. 67
อ่านข่าวต้นฉบับ: 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ต้องลงทะเบียนง่าย ประชาชนเข้าถึงอย่างเป็นธรรม
ที่มา : Prachachat/d-life
อ่านเพิ่มเติมได้ที่…1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ต้องลงทะเบียนง่าย ประชาชนเข้าถึงอย่างเป็นธรรม