All News · June 16, 2023

2 แบงก์ใหญ่ปิดบริการ “อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง” คนใช้น้อยลง

ธนาคารพาณิชย์แห่ปิดให้บริการ “อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง” เหตุลูกค้าใช้บริการน้อยลง-ห่วงเรื่องความปลอดภัยของระบบ-เดินหน้าให้บริการโมบายแบงกิ้ง หลังล่าสุด “ธนาคารไทยพาณิชย์” จ่อยกเลิกตั้งแต่ 14 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ตามหลัง “ธนาคารกรุงไทย” ปิดไปก่อนหน้าตั้งแต่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วน “กสิกรไทย” ยกระดับการให้บริการแทนยกเลิก

วันที่ 16 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นปรากฏการณ์สำคัญเมื่อธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศปิดการให้บริการ “Internet Banking” นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ไปแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย และล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ธนาคารปิดบริการดังกล่าว เนื่องจากจำนวนผู้ใช้บริการลดลง และเปลี่ยนรูปแบบการใช้บริการไปสู่บริการ “Mobile Banking” ที่มีความสะดวกมากขึ้น

นายชาลี อัศวะธีระธรรม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศยกเลิกบริการ “SCB EASY NET” หรือระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งนั้น เนื่องจากมีลูกค้าใช้บริการน้อยลง และธนาคารมีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งจะไม่สามารถควบคุมความปลอดภัยได้เท่ากับโมบายแบงกิ้ง

ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งยกเลิกการให้บริการ “SCB EASY NET” (ระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง) ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 เวลา 21.00 น.เป็นต้นไป โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนมาใช้บริการ และทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน SCB EASY App (แอปพลิเคชั่นทางการเงินบนสมาร์ทโฟน) ซึ่งเป็นระบบที่มีความทันสมัย และปลอดภัยยิ่งกว่า

สำหรับการแจ้งยกเลิกบริการ “SCB EASY NET” ดังกล่าว ธนาคารไทยพาณิชย์ให้เหตุผลว่า เนื่องจากด้วยระบบ “SCB EASY NET” มีข้อจำกัดบางประการ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาเมนูการให้บริการและระบบความปลอดภัยที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าได้ ธนาคารจึงมีความจำเป็นต้องยุติการให้บริการผ่านช่องทางดังกล่าว โดยแนะนำให้ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น “SCB EASY” แทน ซึ่งเป็นช่องทางการให้บริการที่มีระบบความปลอดภัยที่ครบถ้วนกว่า

สำหรับ SCB EASY NET ที่มีการทำรายการโอนเงินและจ่ายบิลล่วงหน้า (Schedule Transfer & Bill Payment) ไว้ ซึ่งกำหนดให้รายการมีผลตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป รายการดังกล่าวจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ โดยธนาคารขอให้ลูกค้าทำรายการใหม่อีกครั้งผ่าน SCB EASY App แต่สำหรับลูกค้าที่เคยสมัครใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติเพื่อชำระค่าบริการต่าง ๆ (Direct Debit) ผ่าน SCB EASY NET ไว้ บริการดังกล่าวจะยังมีผลใช้บังคับอยู่

ในมุมของการให้บริการ ลูกค้ายังสามารถใช้บริการ และทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารผ่าน SCB EASY App ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าในการทำธุรกรรมทางการเงิน, ชำระบิล, ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือ, ตรวจสอบรายการธุรกรรมล่าสุด และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งธนาคารมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวแอปพลิเคชั่นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ทันสมัยและปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานทุกคน

สำหรับลูกค้า SCB EASY NET ที่ยังไม่เคยใช้บริการ หรือทำธุรกรรมผ่าน SCB EASY App สามารถดาวน์โหลด SCB EASY App ได้ด้วยตนเอง ผ่าน App Store และ Play Store ส่วนลูกค้าที่พำนักอยู่ต่างประเทศและประสงค์สมัครใช้บริการแอปพลิเคชั่น “SCB EASY” ธนาคารอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อพัฒนาระบบให้รองรับการสมัครใช้บริการจากต่างประเทศ

โดยธนาคารจะประกาศให้ทราบอีกครั้งเมื่อแล้วเสร็จ ส่วนก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงไทยประกาศยกเลิกบริการอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง “KTB netbank” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา โดยธนาคารให้เหตุผลว่า “KTB netbank” เป็นบริการที่มีผู้ใช้งานลดลงจำนวนมาก และส่วนใหญ่ปัจจุบันลูกค้าหันมาใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น “Krungthai NEXT” เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 16 ล้านราย

ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้งานของลูกค้า ธนาคารจึงแจ้งยกเลิกบริการ “KTB netbank” และมุ่งมั่นพัฒนา “Krungthai NEXT” ให้สามารถทำธุรกรรมการเงินได้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครบวงจรภายในแอปพลิเคชั่นเดียว ซึ่งจะมีจุดแข็งทั้งโอน เติม จ่าย รวมถึงสามารถขอสินเชื่อ และแจ้งเตือนรายการและตั้งรายการล่วงหน้าได้สูงสุด 24 ชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสังคมเงินสด

อย่างไรก็ดี ในส่วนของผู้ใช้บริการ “KTB netbank” จะถูกยกเลิกอัตโนมัติ ลูกค้าไม่ต้องดำเนินการใด ๆ เพื่อยกเลิกบริการ โดยหลังจากนี้ลูกค้าจะไม่สามารถทำรายการ 6 บริการ ผ่านทาง “KTB netbank” ได้แก่ การเรียกดูรายละเอียดและการจัดการบัญชี การโอนเงิน การชำระเงิน บริการโอนเงินด่วนระหว่างประเทศ Western Union การสมัครใช้บริการต่าง ๆ ผ่านช่องทาง “KTB netbank” และบริการจองซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล

ด้านธนาคารกสิกรไทย ได้ยกระดับบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตสำหรับลูกค้าผู้ประกอบการ (K-Cyber for SME) และ K-Cyber สู่การเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ในชื่อว่า “K BIZ” ในช่วงกลางปีที่แล้ว เพื่อให้บริการลูกค้ารายย่อยที่ทำธุรกิจและผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กถึงกลางรวมกว่า 5 แสนราย โดยธนาคารจะ Transfer ข้อมูลต่าง ๆ ของลูกค้าทั้งบุคคลและธุรกิจไปที่ “K BIZ” ทั้งหมด อย่างไรก็ดี ลูกค้าบุคคลก็สามารถใช้ Mobile Banking ผ่านแอปพลิเคชั่น “K PLUS” ได้ด้วย

อย่างไรก็ดี นอกจาก 2 ธนาคารใหญ่ ทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ที่ประกาศปิดการให้บริการ หรือธนาคารกสิกรไทยที่มีการยกระดับการให้บริการ “อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง” แต่จะเห็นว่ายังคงมีธนาคารพาณิชย์ในระบบที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ ภายใต้ชื่อ “Bualuang iBanking” ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต บริการ “ttb internet banking” และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ภายใต้บริการ “Krungsri Online หรือ KOL” เป็นต้น

อ่านข่าวต้นฉบับ: 2 แบงก์ใหญ่ปิดบริการ “อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง” คนใช้น้อยลง



ที่มา : Prachachat/finance
อ่านเพิ่มเติมได้ที่…2 แบงก์ใหญ่ปิดบริการ “อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง” คนใช้น้อยลง

"วิโรจน์" มอง ตัดสิทธิ์ "หยก" ต้องคุยกัน-โกงข้าวกลางวัน นร.ทำลายอนาคตชาติ
เจมส์ จิรายุ เดินสายขอขมาผู้ใหญ่ เตรียมลาบวชทดแทนคุณพ่อแม่

Home